การอุ่นเครื่องของ ‘จ้างวานข้า’ ก่อนลงสนามในฐานะ ‘ข้าการช่าง’

จ้างวานข้าเข้าไปติดตั้งระบบไฟฟ้าใหม่ให้กับบ้านที่ถูกน้ำท่วม นี้เป็นการอุ่นเครื่องก่อนลงสนามจริงในปีหน้า
.
เราเลือกสนามอุ่นเครื่องกับตัวงานฟื้นฟูบ้านเรือนของชาวบ้านที่จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลังจากวิกฤตน้ำท่วมระดับมิดหลังคาบ้านได้ลดลงไปแล้ว
.
ในการอุ่นเครื่องนัดนี้ มันคือการได้ปัดฝุ่นกับทักษะอาชีพที่พวกเราเคยมี พวกเราได้ทดสอบตัวเองในงานช่าง และได้คำตอบว่ายังทำได้ดีและยังทำได้ไหว ที่สำคัญพวกเราได้ช่วยเหลือคนที่ไม่ไหวในการฟื้นฟูบ้านตัวเอง อย่างบ้านคนชราที่อยู่เพียงลำพัง
.
งานช่างครั้งนี้มีสมาชิกจ้างวานข้าวัย 77 ปี เป็นหัวหน้าทีม พร้อมลูกทีมอีก 2 คนที่อยู่ในวัยชราทั้งคู่
.
แล้วหลังจากนี้พวกเราจะอุ่นเครื่องไปอีกสัก 2-3 นัด ในปีหน้าเราจะลงสนามจริง รับจ้างจริง
.
เราจะรับงานในนามว่า “ช้าการช่าง” การช่างที่จะมีคอนเซ็ปต์ต่างออกไปจากความรับรู้ของผู้คน และการช่างของเรานั้นไม่ได้มีแค่งานไฟฟ้าอย่างแน่นอน
.
โปรดติดตามและให้การสนับสนุนพวกเราด้วย

_____________________

สนับสนุนจ้างวานข้าได้ที่
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่บัญชี 202-2-58289-4 SCB

Share Button

ข้อความจากญี่ปุ่น: จับบ้านที่ไม่มีใครอยู่ให้คู่กับคนที่ไม่มีบ้าน

หญิงคนหนึ่ง
ส่งอีเมล์มาจากประเทศญี่ปุ่น
เล่าว่าเธอมีบ้านหลังหนึ่งที่กรุงเทพฯ
ตอนนี้เธอย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นถาวรแล้ว
อยากให้บ้านหลังนี้ถูกใช้ประโยชน์
กับผู้ที่ต้องการที่พักอาศัย
.
หญิงอีกคนหนึ่ง
เธอเป็นเสาหลักของครอบครัว
เพราะสามีป่วยเส้นเลือดในสมองแตก
เธอไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง
ลำพังค่ารักษาพยาบาล ค่ากินไปวันๆ
ก็ไม่เพียงพอต่อการไปหาเช่าบ้านอยู่
.
เราจึงเชื่อมโยง “ผู้ให้” และ “ผู้รับ”
บ้านไม่มีคนอยู่ ถูกจับคู่กับ คนไม่มีบ้าน
เพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ยินดีสละทรัพย์ที่มี
ให้กับเพื่อนมนุษย์อีกคน โดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้จักกัน
เพียงแค่หวังให้สิ่งปลูกสร้างนี้ ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด
และบ้านหลังนี้ กำลังทำประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง
.
การบริจาคอสังหาริมทรัพย์ของคุณ
ทำให้อีกครอบครัว ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

Share Button

ชุดชั้นในมือสองของผู้ประสบภัย ในภาวะที่ไร้สิ่งของติดตัว

ในวันที่มูลนิธิกระจกเงาไปแจกของ
ให้ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัย
ใน อ.วารินชำราบ
.
ชุดชั้นในมือสองจึงถูกหยิบทีละตัวสองตัว
ตัวไหนถูกใจและพอใส่ได้
ก็จะกลับกลายเป็นชุดชั้นในตัวใหม่
ทดแทนตัวเดิม ที่แช่น้ำจนเสียหาย
.
เพราะในภาวะที่ไม่เหลืออะไรติดตัว
ชุดชั้นในมือสองสภาพดียังเป็นทางเลือก
ที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
ให้พวกเธอได้อีกทางหนึ่ง

————————————————

ส่งต่อชุดชั้นในมือสองสภาพดี
ได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191
ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขต หลักสี่ กทม. 10210
โทร.061-909-1840, 063-931-6340

Share Button

จนกว่าคราบโคลนจะจางลง บนฟูกที่นอนเก่าของป้านัท

บ้านของป้านัท เป็นบ้านหลังที่สองของวันนี้
ที่อาสาล้างบ้านเข้าไปช่วยย้ายของและขัดล้าง
เราช่วยแกยกของที่เสียหายออกมาทีละชิ้น
จนมาถึงของชิ้นใหญ่อย่างฟูกที่นอน
.
‘อันนี้ป้าจะเก็บไว้’ แกส่งเสียงบอกอาสาสมัคร
แกให้เหตุผล ว่าแกเก็บเงินมาหลายปี
กว่าจะได้ที่ฟูกนอนหลังนี้มาไว้ที่บ้าน
มันเป็นที่นอนเก่าขนาด 5 ฟุต
ที่แกซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรง
ด้วยอาชีพแม่ค้าน้ำส้มคั้นสด
.
แต่มาวันนี้ น้ำท่วมเพิ่งลด
แกขายของได้บ้างไม่ได้บ้าง
รายได้มันไม่พอให้ไปหาซื้อใหม่
.
แกจึงจำเป็นต้องเก็บฟูกนอนเก่า
ที่เริ่มเน่า และเต็มไปด้วยโคลนไว้
พยายามซักขัดมันไป
จนกว่าคราบความเสียหายจะพอจางลง
____________________

นอกจากครอบครัวป้านัท
ยังมีชาวบ้านอีกหลายครอบครัว
ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกัน
มูลนิธิกระจกเงา รับบริจาคที่นอนทั้งมือหนึ่งและมือสองสภาพดี เพื่อส่งต่อให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัย
.
บริจาคได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา
191 ซอยวิภาวดี62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210 โทร 061 909 1840 , 063 931 6340
.
google map :
https://goo.gl/maps/a7wgGZf2JsLqbfTG9

Share Button

ระยะทาง 600 บาท ระหว่างผู้ป่วยตัวน้อยกับสุขภาพที่ดี

น้องกระต่ายอายุเพียง 3 ขวบ
แต่ใช้เวลามาแล้ว 1 ปี
ในการเดินทางมารักษาตัว
ด้วยโรคเรื้อรังที่โรงพยาบาล
.
น้องกระต่ายอาเจียนไม่ทราบสาเหตุ
วันละหลายรอบ
จนร่างกายไม่ตอบรับอาหาร
.
หมอตรวจร่างกาย ส่งตรวจชิ้นเนื้อ
ตรวจสารเคมีในสมอง
แต่ยังหาวิธีรักษาให้หายขาดไม่ได้
ทำได้ดีที่สุดคือรักษาตามอาการ
น้องจึงต้องมาโรงพยาบาลต่อเนื่อง
.
แม้การรักษาพยาบาล
จะใช้สิทธิบัตรทองไม่เสียเงิน
แต่ทุกครั้งที่มาโรงพยาบาล
แม่ ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน
ต้องหาเงินครั้งละ 600 บาท
เป็นค่าแท็กซี่พาน้องกระต่ายมาหาหมอ
.
โครงการโรงพยาบาลมีสุข มูลนิธิกระจกเงา
จึงสนับสนุนค่าเดินทางให้ครอบครัวนี้
และเรามีแผนสนับสนุนค่าเดินทาง
ให้ครอบครัวเด็กป่วยอีกจำนวน 10 ครอบครัว
.
เพราะค่าเดินทางที่สูง
เกินกว่ากำลังครอบครัวจะแบกรับ
มักเป็นสาเหตุต้นๆ
ที่ทำให้เด็กป่วยหลายคนตัดขาดจากการรักษา
.
ร่วมสนับสนุน ค่าเดินทางเพื่อเด็กป่วย
ได้ที่ บัญชีโครงการโรงพยาบาลมีสุข
เลขที่ 2022582860 ธ.ไทยพาณิชย์
.
หรือ สนับสนุนผ่านเว็บไซด์เทใจดอทคอม
https://taejai.com/th/d/seeadoctor/
(บริจาคผ่านเทใจสามารถลดหย่อนภาษีได้)

Share Button

บ้านทุกหลังที่เขาทำความสะอาด คือทุกรอยยิ้มที่ส่งให้เขาอยากใช้ชีวิตต่อ

“แต่ก่อนถ้ามีคนถามว่าอยากมีชีวิตอยู่ถึงอายุเท่าไหร่ ผมกล้าบอกเลยว่า อายุสัก 35-40 ผมก็ไม่อยากอยู่แล้วว่ะ แต่ถ้าถามวันนี้ ผมจะตอบว่าผมอยากอยู่ไปตลอดเลย เพราะตั้งแต่ได้มาทำงานอาสาสมัคร มันทำให้ผมไม่อยากตายด้วยซ้ำ”
.
“บ้านผมมีกัน 3 คน ผมอยู่กับยายและแม่ ยายผมติดเตียงมาหลายปี วันนึงยายป่วยหนักจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ผมกับแม่ผลัดกันเฝ้าผลัดกันดูแล จนถึงเวลาที่หมอประเมินว่ายายกลับบ้านได้แล้ว แต่ยายต้องใช้ถังออกซิเจนช่วยในการหายใจ”
“ตอนนั้นรายได้ผมเริ่มน้อยมาก น้อยขนาดที่ผมไม่กล้าตัดสินใจ ว่าจะเอายายกลับบ้านดีมั้ย จะหาเงินจากไหนมาซื้อถังออกซิเจนใบละหลายๆ พัน ผมไม่กล้าพูดเลย เพราะผมก็ยังเอาตัวเองไม่รอด จนพี่ที่รู้จักเขาแนะนำที่ยืมถังออกซิเจน เลยได้มารู้จักกับศูนย์ป่วยให้ยืมที่อุบลฯ”
.
“ช่วงที่ยายต้องออกจากโรงพยาบาล เป็นช่วงที่อุบลฯ น้ำเริ่มท่วม บ้านผมยังไม่ท่วมนะแต่ผมไปไหนไม่ได้ เพราะถนนหลายจุดน้ำมันท่วมสูง มันกระทบงานผมมากเพราะผมหาเงินจากการวิ่งรับส่งอาหาร มีวันนึงลุยน้ำไปส่งอาหารให้ลูกค้า ผลสุดท้ายคือรถผมพัง พอไม่มีรถไม่มีเครื่องมือหากิน ผมก็ทำงานรับส่งอาหารไม่ได้อีกเลย”
.
“ผมตระเวนสมัครงาน แต่มันไม่มีที่ไหนเรียก ในหัวผมมีแต่ความเครียด รู้สึกชีวิตเราหดหู่ไปหมด เลยตัดสินใจกลับไปหาพี่เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ป่วยให้ยืม ถามเขาว่า ‘มีอะไรให้ผมช่วยทำมั้ย’ ”
.
“ผมช่วยงานอาสาส่งอุปกรณ์การแพทย์ได้เกือบเดือน พี่ในทีมก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีงานล้างบ้าน น้ำลดแล้ว เราต้องเข้าไปช่วยชาวบ้านล้างบ้าน”
.
“วันแรกที่ไปเห็นสภาพบ้าน โหพี่!! น้ำท่วมมันเสียหายหนักนะ ผมบอกเลยว่ามันเสียหายรองลงมาจากไฟไหม้นิดเดียวเอง บ้างบ้านเป็นคนป่วยอีก ป่วยแล้วยังไม่พอนะ ตอนน้ำท่วมกลายเป็นไม่มีบ้านอยู่”
.
“ผมเห็นแล้วนึกถึงว่าถ้าเป็นยายเรา เราจะทำยังไง ไม่มีบ้านอยู่แล้วเขาไปเข้าห้องน้ำกันที่ไหน อาบน้ำกันตรงไหน ของใช้ในบ้านเละหมดเลย เขาจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่ คำถามมันเข้ามาในหัวเต็มไปหมด มันเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่เขาเองก็ยังไม่มีทางออก บ้านบางคนหลังคายังมิดน้ำอยู่เลย มันไม่มีใครเข้าไปช่วยเขา ผมเลยตัดสินใจว่าจะลงงานล้างบ้านกับทีมแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้ชาวบ้านเขาได้กลับมาอยู่บ้าน ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติเร็วๆ”
.
“หลายบ้านที่หลังเราทำความสะอาดให้เสร็จ เจ้าของบ้านชอบซื้อนู้นนี่มาให้ ผมบอกเขาตลอดว่าให้เก็บไว้กินเลย เพราะแค่รอยยิ้มกับคำว่าขอบคุณที่เขามอบให้ สำหรับคนอย่างเรามันก็มากพอแล้ว”
————————————-
อั้ม เจตน์สฤษฎ์ ราโชติ
อาสาล้างบ้านมูลนิธิกระจกเงา
————————————-
เราเปิดศูนย์อาสาล้างบ้าน มาแล้วหนึ่งเดือน
ช่วยกันฟื้นฟูบ้านชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ
รวมถึงชาวบ้านกลุ่มเปราะบาง
ที่ไม่มีกำลังล้างบ้านไปแล้วกว่า 50 หลัง
เพื่อเยียวยา ลดระยะเวลาให้พวกเขา
ได้กลับเข้าบ้าน อย่างเร็วที่สุด
.
สนับสนุนภารกิจล้างบ้านได้ที่
บัญชีกองทุนภัยพิบัติ มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 SCB
Share Button

ในบ้านที่กำลังผุพัง เราซ่อมมันเพื่อให้เธอได้อยู่กับพ่ออีกครั้ง…

“สองเดือนได้แล้ว ที่พ่อต้องไปอยู่ศูนย์พักพิงสำหรับคนป่วย แกถามเราทุกวัน ว่าจะได้กลับบ้านกันตอนไหน แกอยากกลับบ้านแล้ว”
.
“พ่อแกอายุ 80 ติดเตียงมาตั้งแต่ปี 2547 แขนขาหงิกงอ เหยียดออกไม่ได้ ทำอะไรเองไม่ได้ ตอนน้ำเริ่มมาแรกๆ เราคิดว่ามันจะท่วมไม่หนัก เพราะบ้านเราเจอน้ำท่วมทุกปีมันก็ไม่เคยสูงเกินชั้นสอง เราเลยย้ายพ่อหนีน้ำจากชั้นหนึ่งขึ้นชั้นสอง ส่วนของในบ้านก็เอาขึ้นไปผูกไว้กับขื่อ”
.
“แต่เราคิดผิด น้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมาปริ่มตรงเตียงพ่อ เลยให้คนรู้จักเอาเรือมารับ ขอให้เขาพาพ่อไปศูนย์พักพิงก่อน แล้วให้ลูกชายเราที่อยู่มัธยม 5 ตามไปเฝ้า ส่วนตัวเราหาเศษแผ่นไม้มาสร้างเพิงตรงเนินข้างบ้าน เพราะบ้านเรายังอยู่ตรงนี้ มันต้องมีคนเฝ้าบ้าน”
.
“เราอยู่ตรงเนินข้างบ้าน ตั้งแต่วันที่น้ำมิดหลังคา เทียวไปเทียวมาเฝ้าพ่อกับเฝ้าบ้าน เป็นอย่างนั้นสักพักจนน้ำเริ่มลดลงครึ่งนึง ตอนนั้นก็เริ่มเห็นสภาพบ้าน บ้านที่พ่อกับเราช่วยกันสร้าง มันพังไปหมด สังกะสีหลุด แผ่นไม้หลุด เหลือแต่โครง ความรู้สึกตอนเห็นคือมันอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ มันอึดอัดอยู่ในใจ ถึงขั้นอยากจะโดดน้ำมูลตายไปเลย”
.
“ของใช้ในบ้านมันก็ไม่เหลือ บ้านเราอยู่ติดริมน้ำมูล พอน้ำมันซัดของก็ไหลออกไปในแม่น้ำ เราก็ไปขอยืมเรือพายคนรู้จักอีกรอบ รอบนี้เอามาพายเก็บของ มันไม่มีทางเลือกเพราะของแต่ละอย่างมันไม่ใช่ถูกๆ ไม่ได้ซื้อมาง่ายๆ ที่เก็บได้ก็เอามาเช็ดมาล้าง ส่วนที่เก็บไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้มันลอยหายไป”
.
“หลายคนเขาก็พูดกับเรา ว่าให้เราถมที่ให้มันสูงขึ้น น้ำจะได้ไม่ท่วมหนัก เพราะบ้านเราเป็นลุ่มต่ำกว่าบ้านอื่นๆ บางคนก็ว่าให้เราย้ายไปอยู่ที่อื่น เราก็อยากจะทำอยู่หรอก แต่ขาดอย่างเดียวคือเงิน จะทำอย่างเขาว่า มันก็ต้องใช้เงิน ลำพังหารับจ้างทั่วไปอย่างเราไม่ได้มีเงินมากมาย ยิ่งมาตอนนี้อีกแทบจะไม่มีรายรับเลย”
.
“เราเคยทำงานรับจ้างล้างจานอยู่ร้านอาหาร แต่พอน้ำมันท่วมมันเดินทางยาก ก็ไปทำงานไม่ได้ ป่านนี้เขาคงให้เราออกแล้วเพราะเราขาดงานมานาน ก็เหลือแต่เบี้ยคนแก่ คนพิการของพ่อ ที่พอจะได้จ่ายได้ซื้อข้าวกินกัน”
.
“วางแผนไว้ว่า ถ้าน้ำลดหมดแล้ว เราจะรีบล้างทำความสะอาดให้พ่อได้กลับมาอยู่ นอนกันตรงพื้นไม้ที่ยังไม่ผุไปก่อน เพราะตอนนี้เรายังไม่มีเงิน ได้แต่บอกพ่อไว้ว่าให้อดทนรออีกหน่อย หนูจะไปหารับจ้างเด็ดพริก เด็ดผัก เก็บเงินมาซ่อมบ้านเรา แต่หนูขออย่างเดียว ขอให้พ่ออยู่รอจนถึงวันนั้น”
———————————————
ป้าพิศ วัย 59 ปี ผู้ประสบอุทกภัย
ที่ยังต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง
———————————————
เนื่องจากบ้านของป้าพิศ เป็นที่ลุ่มน้ำขัง
ทีมอาสาล้างบ้านจึงนำเครื่องสูบน้ำ
ช่วยกันสูบน้ำออกจากบ้านของเธอ
จากนั้นเราเข้าไปช่วยขัดล้างบ้าน
เพื่อรอต้อนรับพ่อของเธอที่ป่วยติดเตียง
.
และเรามีแพลนจะช่วยเธอซ่อมบ้าน
ให้ครอบครัวของเธอพออยู่ได้
ไม่ต้องทนนอนหนาวในบ้านที่ไม่มีผนังบังกาย
บนพื้นไม้ที่กำลังผุพังลงทุกที
.
ข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ ที่เราได้รับบริจาค
จากโครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง
จะมาเติมเต็มให้กับบ้านของป้าพิศ และครอบครัว
.
สนับสนุนภารกิจอาสาล้างบ้านและซ่อมบ้าน
ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ
ได้ที่บัญชี กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์
.
หรือหากคุณเป็นบริษัท กลุ่มองค์กร
หรือในโครงการกิจกรรม CSR
ประสงค์จะช่วยเหลือในงานซ่อมสร้างบ้าน
สามารถติดต่อเราได้ที่
0619091840 , 0639316340
Share Button

วัฏจักรชีวิตไร้บ้านของผู้ป่วยในตรอกสาเก

“เดี๋ยวก็มีมาใหม่อีกเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น” ประโยคของคนในตรอกสาเก บอกเล่ากับทีมงานผู้ป่วยข้างถนนหลังจากที่เราประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชหญิงรายนี้อยู่
.
จริงอย่างที่ชาวบ้านแถวตรอกสาเกบอกกับเรา ไม่นานนักก็จะมีผู้ป่วยรายใหม่เดินวนเวียนใช้ชีวิตอยู่ที่ตรอกสาเก หรือข้อเท็จจริงที่สุดก็คือ ในขณะที่เราช่วยผู้ป่วยหญิงคนนี้อยู่ ก็ยังมีผู้ป่วยอีกไม่ต่ำกว่า 5 รายที่ใช้ชีวิตกับความป่วยจิตเวชอยู่ที่ข้างถนนในพื้นที่ตรอกสาเกหรือไม่ก็พื้นที่ใกล้เคียง หรือเมื่อปีก่อนนี้เองที่เราให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชหญิงที่ตรอกสาเกไป
.
วัฏจักรนี้มันเป็นอย่างไร ผู้หญิงคนนี้อาจบอกเล่าเรื่องนี้ได้พอสมควร
.
1 ปีกว่าๆ คือเวลาที่เธอมาใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ที่ตรอกสาเก
.
การแต่งกาย เสื้อผ้าหน้าผมของเธอ แน่นอนมันบอกถึงอาการจิตเวชอย่างไม่มีข้อสงสัย และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ มันคือเสื้อเว้าแหว่งคล้ายเสื้อกล้าม ที่สำคัญคือเธอไม่สวมชุดชั้นใน และมาระยะหลัง เสื้อตัวเก่งก็ถอดออก บางครั้งก็เปลือยท่อนบนนั้นและใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ทั้งวัน
.
มาตอนแรกๆ ก็ขายของมือสองที่หาเก็บตามถังขยะ สภาพของมีทั้งสภาพกึ่งพังและพังไปแล้ว ยิ่งช่วงหลังมานี้ของที่เก็บมาขาย มีสภาพกึ่งขยะและเป็นขยะไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อมีลูกค้าเข้ามาถามไถ่ราคาสินค้า แม่ค้าไม่พูดไม่บอกราคาสินค้านั้นแต่อย่างใด
.
ข้าวปลาอาหาร ช่วงมาอยู่แรกๆ การหาอยู่หากิน ก็ยังใช้เงินซื้อข้าวปลาอาหารมากินเองได้ ช่วงหลังมานี้ ถังขยะนอกจากจะเป็นแหล่งหาของไปขาย มันยังทำหน้าที่เป็นโรงอาหารให้กับเธอ หิวน้ำก็หยิบแก้วน้ำเหลือขึ้นมาดื่มกิน หิวมากหน่อยก็อาจเป็นข้าวกล่อง ขนมปังเหลือๆ ที่ถูกหยิบขึ้นมากิน
.
หลายครั้งถูกชายหนุ่มกลัดมันเข้ามาดิว(เจรจาเพื่อซื้อบริการ) แต่เธอไม่เคยไปกับใคร(หญิงสาวขายบริการแถวนั้นให้ข้อมูลตรงกัน) แต่ก็มีหลายครั้งที่เธอถูกคุกคามจากผู้ชาย ทั้งที่เป็นคำพูดและท่าทีหื่นๆ แรงๆ พวกเขาทำเสมือนเธอมีสภาพเป็นวัตถุทางเพศไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ควรเคารพในฐานะมนุษย์เช่นเดียวกัน
.
ประเทศไทยนั้นมี พระราชบัญญัติสุขภาพจิตอยู่ แต่มันก็เป็นกฎหมายที่แทบมีสภาพบังคับใช้ไม่ได้ ยิ่งในหมวดที่เกี่ยวเนื่องกับการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชที่เร่ร่อนอยู่ที่ข้างถนนแบบเธอคนนี้
.
กลไกช่วยเหลือที่รวดเร็วนั้นนับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับตัวผู้ป่วยอย่างมาก เพราะอาการป่วยของเธอคงไม่หนักข้อขนาดที่ไม่ซื้อของกินแล้วแต่เป็นการหาเอาตามถังขยะกินแทน เธออาจจะไม่ต้องแก้ผ้าให้ใครต่อใครที่เธอไม่เคยได้รู้จักได้เห็นรูปกายเธอ ทั้งๆ ที่มันควรเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างที่สุด เธออาจจะได้ขายของเป็นชิ้นเป็นอันเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากที่เธอได้เข้ารับการรักษาแล้ว ที่สำคัญเธอจะไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเสี่ยงที่ว่าจะถูกละเมิดทางเพศโดยที่เธอป้องกันตัวเองแทบไม่ได้แล้ว
.
สุดท้ายของบทความนี้เราขอฝากเรื่องนี้ไว้ให้กับรัฐ เพื่อรัฐจะได้ตระหนักว่า ความเร็วในการให้ความช่วยเหลือบุคคลพลเมืองของรัฐนั้น มันนับเป็นตัวชี้วัดว่ารัฐให้ความใส่ใจต่อบุคคลพลเมืองของตัวเองนั้นมากแค่ไหน บาร์ที่ว่านั้นอยู่ต่ำหรือสูง ความเร็วนั้นนับเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สำคัญมากเลยทีเดียว
—————————————————
สนับสนุนการทำงานได้ที่
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่บัญชี 202-2-58289-4 SCB
Share Button

เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็น ‘รอยยิ้ม’ สู่ผู้ประสบภัยชาวอุบล

เราเอาเสื้อผ้ามาแจก
ให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมที่อุบล​ราชธานี
เสื้อผ้าที่มาทดแทนตัวที่มันเน่าคาตู้เสื้อผ้าไป
ลอยไปกับน้ำที่ท่วมมิดหลังคาบ้าน
.
ยายคนนึงนั่งรอคิวที่ข้างทาง
เพราะยืนนานไม่ไหว
​จากเหตุลื่นล้มตอนล้างบ้านตัวเอง
แกนั่งรอคิวจากหางแถวสุดท้าย
ประมาณ 100 กว่าคิวได้
.
“แกบอกไฟฟ้าเพิ่งมีใช้​เอง​ ยุงก็เยอะ​
เสื้อผ้าก็ไปกับน้ำหมด​เลย”
แกถามต่ออีกว่า “มาจากที่ไหนกัน?”
.
เราตอบ​ “มูลนิธิ​กระจกเงา​ครับ”
แกถามเพิ่มเติมว่า​ “ให้เสื้อคนละกี่ตัว?”
เราตอบ​ “คนละ 20 ตัวครับ
เสื้อหนาวอีกคนละ 1 ตัว​
ให้เลือกไซส์เลือกลายเลือกสีได้​
มีข้าว​มีของอื่นๆ ด้วยครับ
ยายไม่ต้องห่วงเราเตรียมมาเยอะอยู่ครับ​
มีคนที่เขาบริจาคช่วยมาเยอะอยู่ครับ”
.
แกบอก ขอบอกขอบใจ
.
อีกฝั่งนึง​ สาววัยรุ่น 3 คน
กำลังกางดูเสื้อยืดที่ได้รับไป​
เพื่อนคนนึงในกลุ่มเอ่ยปากบอกชม
ว่า​ลายเสื้อสวยดีจัง
ไม่ทันไร วัยรุ่น​คนกางเสื้อเอ่ยปาก
บอกเป็นภาษาอีสานว่า
“ข้อยให้เจ้าเด้อ​ เป็นของขวัญวันเกิด”
เจ้าของวันเกิดยิ้มให้เพื่อนแก้มแทบปริ
.
มูลนิธิ​กระจกเงา​ เรารับบริจาคของใช้หลายอย่าง
ของส่วนหนึ่งทำหน้าที่ระดมทุน
​เพื่อเป็นทุนในการขับเคลื่อน​งานทางสังคม​ต่างๆ
.
อีกส่วนหนึ่ง​นำมาแจกจ่ายให้กับผู้คนที่ประสบภัย
ทั้งทางสังคมและธรรมชาติ
.
เรามีสโลแกน​ของงานนี้ว่า
“การแบ่งปันของคุณ​เปลี่ยนแปลงสังคม​ได้”
.
หลายเรื่องใหญ่ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว​
แม้ในเรื่องเล็ก​ เช่น ​เมื่อของแบ่งปันนี้
มาถึงมือชาวบ้านที่อุบลฯ
การเปลี่ยนแปลง​บนใบหน้าพวกเขาก็เกิดขึ้น
.
“รอยยิ้ม” คือการเปลี่ยนแปลง​ที่ว่านั้น
—————————————————
แบ่งปันสิ่งของเหลือใช้ของคุณ
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลง
ได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 191 ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขต หลักสี่ กทม. 10210
โทร.061-909-1840, 063-931-6340
Share Button

ภารกิจล้างบ้าน 50 หลังของอาสาในพื้นที่และอาสานอกพื้นที่

อาสากลุ่มหนึ่ง เป็นเยาวชนต้องโทษ
อยู่ในบ้านกาญจนาภิเษก
อดีตเคยทำผิดพลาด
และพยายามเรียนรู้เพื่อกลับคืนสู่สังคม
.
อาสาอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นนักศึกษา
ในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
เป็นเจ้าบ้าน เป็นลูกหลานของคนในพื้นที่
.
วันนี้อาสาสองกลุ่มมารวมกัน
คนในพื้นที่รวมแรงกับคนนอกพื้นที่
มุ่งหน้าไปยังความเดือดร้อน
พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด
.
บ้านถูกล้างไปห้าสิบกว่าหลัง
ชาวบ้านหลายร้อยคน
ที่ประสบอุทกภัยมาอย่างยาวนาน
ได้กลับเข้าบ้าน กลับไปใช้ชีวิต
อย่างเป็นปกติสุขอีกครั้ง
—————————————————
ขอขอบคุณน้องๆ เยาวชนบ้านกาญจนา
และน้องๆ นักศึกษาม.อุบล
ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาสาล้างบ้าน
ใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
Share Button