จนกว่าคราบโคลนจะจางลง บนฟูกที่นอนเก่าของป้านัท

บ้านของป้านัท เป็นบ้านหลังที่สองของวันนี้
ที่อาสาล้างบ้านเข้าไปช่วยย้ายของและขัดล้าง
เราช่วยแกยกของที่เสียหายออกมาทีละชิ้น
จนมาถึงของชิ้นใหญ่อย่างฟูกที่นอน
.
‘อันนี้ป้าจะเก็บไว้’ แกส่งเสียงบอกอาสาสมัคร
แกให้เหตุผล ว่าแกเก็บเงินมาหลายปี
กว่าจะได้ที่ฟูกนอนหลังนี้มาไว้ที่บ้าน
มันเป็นที่นอนเก่าขนาด 5 ฟุต
ที่แกซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรง
ด้วยอาชีพแม่ค้าน้ำส้มคั้นสด
.
แต่มาวันนี้ น้ำท่วมเพิ่งลด
แกขายของได้บ้างไม่ได้บ้าง
รายได้มันไม่พอให้ไปหาซื้อใหม่
.
แกจึงจำเป็นต้องเก็บฟูกนอนเก่า
ที่เริ่มเน่า และเต็มไปด้วยโคลนไว้
พยายามซักขัดมันไป
จนกว่าคราบความเสียหายจะพอจางลง
____________________

นอกจากครอบครัวป้านัท
ยังมีชาวบ้านอีกหลายครอบครัว
ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกัน
มูลนิธิกระจกเงา รับบริจาคที่นอนทั้งมือหนึ่งและมือสองสภาพดี เพื่อส่งต่อให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัย
.
บริจาคได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา
191 ซอยวิภาวดี62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210 โทร 061 909 1840 , 063 931 6340
.
google map :
https://goo.gl/maps/a7wgGZf2JsLqbfTG9

Share Button

บ้านทุกหลังที่เขาทำความสะอาด คือทุกรอยยิ้มที่ส่งให้เขาอยากใช้ชีวิตต่อ

“แต่ก่อนถ้ามีคนถามว่าอยากมีชีวิตอยู่ถึงอายุเท่าไหร่ ผมกล้าบอกเลยว่า อายุสัก 35-40 ผมก็ไม่อยากอยู่แล้วว่ะ แต่ถ้าถามวันนี้ ผมจะตอบว่าผมอยากอยู่ไปตลอดเลย เพราะตั้งแต่ได้มาทำงานอาสาสมัคร มันทำให้ผมไม่อยากตายด้วยซ้ำ”
.
“บ้านผมมีกัน 3 คน ผมอยู่กับยายและแม่ ยายผมติดเตียงมาหลายปี วันนึงยายป่วยหนักจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ผมกับแม่ผลัดกันเฝ้าผลัดกันดูแล จนถึงเวลาที่หมอประเมินว่ายายกลับบ้านได้แล้ว แต่ยายต้องใช้ถังออกซิเจนช่วยในการหายใจ”
“ตอนนั้นรายได้ผมเริ่มน้อยมาก น้อยขนาดที่ผมไม่กล้าตัดสินใจ ว่าจะเอายายกลับบ้านดีมั้ย จะหาเงินจากไหนมาซื้อถังออกซิเจนใบละหลายๆ พัน ผมไม่กล้าพูดเลย เพราะผมก็ยังเอาตัวเองไม่รอด จนพี่ที่รู้จักเขาแนะนำที่ยืมถังออกซิเจน เลยได้มารู้จักกับศูนย์ป่วยให้ยืมที่อุบลฯ”
.
“ช่วงที่ยายต้องออกจากโรงพยาบาล เป็นช่วงที่อุบลฯ น้ำเริ่มท่วม บ้านผมยังไม่ท่วมนะแต่ผมไปไหนไม่ได้ เพราะถนนหลายจุดน้ำมันท่วมสูง มันกระทบงานผมมากเพราะผมหาเงินจากการวิ่งรับส่งอาหาร มีวันนึงลุยน้ำไปส่งอาหารให้ลูกค้า ผลสุดท้ายคือรถผมพัง พอไม่มีรถไม่มีเครื่องมือหากิน ผมก็ทำงานรับส่งอาหารไม่ได้อีกเลย”
.
“ผมตระเวนสมัครงาน แต่มันไม่มีที่ไหนเรียก ในหัวผมมีแต่ความเครียด รู้สึกชีวิตเราหดหู่ไปหมด เลยตัดสินใจกลับไปหาพี่เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ป่วยให้ยืม ถามเขาว่า ‘มีอะไรให้ผมช่วยทำมั้ย’ ”
.
“ผมช่วยงานอาสาส่งอุปกรณ์การแพทย์ได้เกือบเดือน พี่ในทีมก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีงานล้างบ้าน น้ำลดแล้ว เราต้องเข้าไปช่วยชาวบ้านล้างบ้าน”
.
“วันแรกที่ไปเห็นสภาพบ้าน โหพี่!! น้ำท่วมมันเสียหายหนักนะ ผมบอกเลยว่ามันเสียหายรองลงมาจากไฟไหม้นิดเดียวเอง บ้างบ้านเป็นคนป่วยอีก ป่วยแล้วยังไม่พอนะ ตอนน้ำท่วมกลายเป็นไม่มีบ้านอยู่”
.
“ผมเห็นแล้วนึกถึงว่าถ้าเป็นยายเรา เราจะทำยังไง ไม่มีบ้านอยู่แล้วเขาไปเข้าห้องน้ำกันที่ไหน อาบน้ำกันตรงไหน ของใช้ในบ้านเละหมดเลย เขาจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่ คำถามมันเข้ามาในหัวเต็มไปหมด มันเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่เขาเองก็ยังไม่มีทางออก บ้านบางคนหลังคายังมิดน้ำอยู่เลย มันไม่มีใครเข้าไปช่วยเขา ผมเลยตัดสินใจว่าจะลงงานล้างบ้านกับทีมแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้ชาวบ้านเขาได้กลับมาอยู่บ้าน ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติเร็วๆ”
.
“หลายบ้านที่หลังเราทำความสะอาดให้เสร็จ เจ้าของบ้านชอบซื้อนู้นนี่มาให้ ผมบอกเขาตลอดว่าให้เก็บไว้กินเลย เพราะแค่รอยยิ้มกับคำว่าขอบคุณที่เขามอบให้ สำหรับคนอย่างเรามันก็มากพอแล้ว”
————————————-
อั้ม เจตน์สฤษฎ์ ราโชติ
อาสาล้างบ้านมูลนิธิกระจกเงา
————————————-
เราเปิดศูนย์อาสาล้างบ้าน มาแล้วหนึ่งเดือน
ช่วยกันฟื้นฟูบ้านชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ
รวมถึงชาวบ้านกลุ่มเปราะบาง
ที่ไม่มีกำลังล้างบ้านไปแล้วกว่า 50 หลัง
เพื่อเยียวยา ลดระยะเวลาให้พวกเขา
ได้กลับเข้าบ้าน อย่างเร็วที่สุด
.
สนับสนุนภารกิจล้างบ้านได้ที่
บัญชีกองทุนภัยพิบัติ มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 SCB
Share Button