หมวดหมู่: ศูนย์ข้อมูลคนหาย
DNA จากเยื่อบุกระพุ้งแก้ม สู่ความหวังในการพบคุณตาที่หายไป
คำสัญญาของคุณตาที่ตามหาน้องชายมาตลอด 3 ปี
ลดความลำบากผ่านกล่องแบ่งปัน สู่ครอบครัวที่รอให้คนหายกลับมา
ทุกเบาะแสมีความหมาย ยังมีหวังที่จะได้พบลูกชายที่หายไป
“มีชายเร่ร่อนผอมมากๆ
ผมยาวจนพันกันเป็นขดๆ
หน้าเหมือนคุณคนนี้
เดินถอดเสื้ออยู่แถวศรีราชา…”
.
นี่คือเบาะแสแห่งความหวัง
หลังเราเล่าเรื่องคนหายจิตเวชรายหนึ่ง
ลงในหน้าเพจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
และมีเบาะแสแจ้งกลับมาทันที
.
เบาะแสนี้แม่คนหายยังเข้าคอมเมนต์
จนทำให้เราทราบว่า
แม่คนหายเป็น “แฟนตัวยง”
ของเพจมูลนิธิกระจกเงา
แปลว่าเธอยังคงเฝ้ารอความหวัง
และติดตามเบาะแสด้วยใจจดจ่อ
.
ทีมงานลงพื้นที่มาตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้
จนกระทั่งเช้าวันนี้เราเจอชายเร่ร่อน
ตรงตามเบาะแสที่แฟนเพจแจ้งมา
.
ความหมาย
ทีมงานรีบส่งภาพชายเร่ร่อน
ให้แม่คนหายตรวจสอบทันที
แม้คำตอบจะยังไม่ใช่คนหาย
ที่แม่และทีมงานกำลังตามหา
แต่ทุกเบาะแสล้วนแล้วแต่มีความหมาย
อย่างน้อยทำให้รู้ว่า
แม่ไม่ได้ตามหาลูกเพียงลำพัง
และคนในสังคมยังมีสายตา
ที่มองเห็นเพื่อนมนุษย์ที่ลำบากเดือดร้อน
.
#ความช่วยเหลือ
แม้ชายเร่ร่อนคนนี้
จะยังไม่ใช่ลูกชายของแม่รายนี้
แต่ทีมงานพยายามตรวจสอบข้อมูล
ว่าอาจเป็นคนหายรายอื่นๆ หรือไม่
และจะส่งข้อมูลให้ทีมงานผู้ป่วยข้างถนน
ลงพื้นที่ประสานให้ความช่วยเหลือ
ชายเร่ร่อนคนนี้เป็นลำดับต่อไป
.
ความทรงจำที่งดงาม
มีคอมเมนต์หนึ่งในประกาศคนหายรายนี้
“เมื่อก่อนจะเลี่ยงคนเร่ร่อน คนสติไม่ดี
หรือคนเกิดอุบัติเหตุ เพราะกลัว
แต่หลังจากตามข่าวมูลนิธิกระจกเงาบ่อยๆ
เราจะมองทุกครั้ง เผื่อเป็นคนหายในประกาศ
จำภาพตอนที่แม่เจอน้องสาว
หลังจากที่หายไปหลายสิบปีได้เลย
อยากให้ทุกคนเจอคนที่ตามหา”—————————————————
สนับสนุนให้ทุกความหวังเป็นจริง
ร่วมพาคนหายกลับบ้าน
บัญชีโครงการศูนย์ข้อมูลคนหาย โดยมูลนิธิกระจกเงา
ไทยพาณิชย์ เลขที่ 2022582886
‘เสี่ยหมี’ ได้กลับชุมชนอีกครั้ง ร่างของเขาไม่ใช่ศพนิรนามอีกต่อไป
น้ำตาแห่งการรอคอยสิ้นสุดลง แม่ได้พบกับลูกอีกครั้งหลังหายไป 3 ปี
หวนคืนสู่อ้อมแขนของครอบครัว ศพที่เคยนิรนามของ ‘ลุงอ๊อด’
“พ่ออยู่ที่ไหน” ใจลูกก็อยู่ที่นั่น
“พ่ออยู่ที่ไหน” ใจลูกก็อยู่ที่นั่น
คุณตานิตย์ สีหจักร์ อายุ 100 ปี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากบริเวณหมู่บ้านหนองไทร
ตำบลไร่เก่า อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561
ลูกๆของตานิตย์ขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ข้อมูลคนหาย ให้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องราว
การหายตัวของตานิตย์ผ่านเพจศูนย์ข้อมูลคนหาย เพื่อหวังว่าใครอาจจะพบเจอคุณตาที่ไหนสักแห่ง
หลังจากนั้นทีมงานลงพื้นที่ติดตามหาคุณตาอย่างละเอียดในทุกตารางนิ้วของตำบลไร่เก่า
อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ว่าจะกี่ครั้งปาฏิหาริย์ก็ไม่เคยเข้าข้าง..
เป็นเวลากว่า 8 เดือนที่ลูกๆไม่เคยหยุดการค้นหา … ถึงแม้ว่าจะเจอเพียงไม้เท้าและรองเท้า
ความหวังในการได้พบพ่ออีกสักครั้งก็ไม่เคยล้มเลิก
“ฉันจะตามหาพ่อทั้งชีวิต” ป้านี ลูกสาวตานิตย์พูดอย่างหนักแน่น
“รู้ทั้งรู้ว่าพ่อมีอาการหลงลืม และต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายก็พลาดจนได้”
การหายตัวไปของพ่อจึงเป็นเรื่องค้างคาใจสำหรับชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ของป้านี
ทุกซอกทุกมุมถูกค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีก ลูกๆทุกคนภาวนาขอเพียงได้รู้ว่าพ่ออยู่ตรงไหน
ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็อยากได้พบพ่ออีกครั้ง
“พ่ออยู่ที่ไหน” เป็นประโยคคำถามที่ป้านีและพี่ๆน้องๆทุกคนเฝ้าคิดวนเวียนอยู่ในหัว
ท่ามกลางความล้มเหลวผิดหวัง ป้านียังเหลือพื้นที่ให้กับความหวังเล็กๆในใจ
“อยากได้เลี้ยงดูพ่ออีกหน่อยก็ยังดี การหายไปแบบนี้ทำให้ทุกอย่างมันไม่สิ้นสุดเสียที เหมือนไม่ได้ดูแลกันในวาระสุดท้าย”
สิ่งสุดท้ายที่อยากร้องขอต่อโชคชะตา หากพบเจอกันแบบมีลมหายใจไม่ได้
ก็ขอได้เจอกระดูกของพ่อก็เพียงพอ …การรอคอยจะได้ถึงเวลาสิ้นสุดเสียที
“มีเพียงความหวังและกำลังใจที่มีให้กันเท่านั้น ที่ทำให้การรอของเรามีความหมาย รอจะได้พ่อคืนมาในสักวัน”
ปลายสายแห่งความหวัง…….
ปลายสายแห่งความหวัง…….
“อีหนูยายได้คุยกับลูกชายของยายแล้วนะลูก
ยายมีความสุขเหลือเกิน ขอบคุณหนูมากสำหรับคำแนะนำ
ในการตามหาลูกชาย ความสุขของคนเป็นแม่
แค่นี้ก็ชื่นใจมากแล้วลูกเอ่ย ขอให้หนูเจริญๆนะลูก
บทสนทนาของหญิงชราทางสายโทรศัพท์”
…
ทุกวันที่ “ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา”
จะทำการรับแจ้งประสานงานและให้คำแนะนำ
ในการติดตามหาคนหายทางสายโทรศัพท์
วันละ 5-7 ครอบครัว ทุกสายที่โทรเข้ามาล้วนมีความหวัง
ว่าจะได้รับการช่วยเหลือ หน้าที่ของเราคือการให้คำปรึกษา
คำแนะนำ รวมไปถึงการให้กำลังใจบุคคลที่โทรเข้ามา
เพราะทุกสายต่างมีความทุกข์
ต้องการระบายเพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง
และความหวังในการพบเจออีกคนที่หายไป ……
…
ตลอดเวลาของการสนทนากับคุณยายท่านนี้
เราสัมผัสถึงความสุขผ่านปลายสายโทรศัพท์ของผู้เป็นแม่
ที่ได้มีโอกาสได้ยินเสียงลูกชายที่รักอีกครั้ง
และยังมีหลายครอบครัวที่ได้ประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้
คนที่หายไปจากบ้าน….
ไม่ยอมติดต่อกับคนทางบ้าน
เพียงเพราะคิดว่าไม่อยากให้ใครเป็นห่วง
แต่การเงียบหายไปนั้นยิ่งทำให้คนในครอบครัว
เป็นห่วงเขาและเธอมากขึ้นกว่าเดิม
…
หน้าที่ของคนรับสายโทรศัพท์
ผู้เป็นเสมือนปลายทางแห่งความหวัง
ถึงแม้บางครั้งคนที่ทำหน้าที่ตรงนี้อาจไม่มีเวลา
ส่วนตัวมากนัก แต่พวกเราเองก็รู้สึกดีที่อย่างน้อย
การอุทิศชีวิตในการทำงานของเราให้กับครอบครัวคนหาย
เรายังได้เป็นที่พึ่งพา เป็นความหวังของใครหลายๆ คน
หลายๆ ครอบครัวที่โทรเข้ามาหาเรา
ด้วยความหวังร่วมกันว่าการรอคอยจะได้สิ้นสุดลง
“การรอคอยต้องมีวันสิ้นสุด”
ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา