บางความตายนั้นเงียบงัน..สงบนิ่งราวกับเสียงลมหายใจอันแผ่วเบา
เธอจากไปแล้ว.. ลูกสาวของแม่ ภรรยาที่แสนดี และแม่ผู้เสียสละ..ของลูกชาย
“อะยัมปิ โข เม กาโย เอวัง ธัมโม เอวัง ภาวี เอวัง อะนะตีโต” “
ร่างกายของมนุษย์เรานี้ ย่อมมีความตาย เป็นธรรมดาอย่างนี้ เป็นปกติอย่างนี้
ไม่ล่วงพ้นความตายอย่างนี้ไปได้เลย”
สิ้นคำเทศน์ก่อนถึงพิธีเผาศพ ขณะที่โลงศพค่อยๆเคลื่อนวนรอบเมรุ ใครบางคนหัวใจสลาย
การตายจาก..เป็นเรื่องธรรมดาสามัญสำหรับผู้คนที่ไม่รู้จักกัน..
ก่อนสิ้นลมหายใจสุดท้าย เธอผู้นี้ ทำหน้าที่แม่ดูแลลูกชายวัยรุ่นพิการนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ชีวิตที่เหลืออยู่ของแม่ ฝากไว้ที่ลูกชายจนหมดสิ้น.. เขาคือแก้วตาดวงใจอันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขหนึ่งเดียวของครอบครัว
ครอบครัวเล็กๆที่มีเพียงเราสามคน พ่อ แม่ ลูก
ลูกชายประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ตั้งแต่วัยเพียงสิบห้าปี
เขานอนเหงาอยู่บนเตียงโดยมีแม่คอยเคียงข้างทุกเช้าค่ำ
เป็นเวลายาวนานกว่า 6 ปี อยู่ดีๆแม่ก็ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย
เธอกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทำได้แค่เพียงนอนคุยเคียงข้างลูกชาย…
เหลือแค่สามี ทำหน้าที่ทุกอย่างแทนภรรยา รวมทั้งต้องหารายได้เพื่อใช้จ่ายในครอบครัว
ลำพังแค่สาละวนดูแลลูกและเมีย ในแต่ละวัน เงินที่สะสมไว้นับวันก็ยิ่งร่อยหรอ
โชคดีที่โครงการอาสามาเยี่ยม มาช่วยแบ่งเบา ได้รับข้าวสาร อาหารแห้ง พอได้ประทังชีวิต
ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ คือคุณูปการที่ช่วยทำให้หัวใจที่เหนื่อยล้าได้พักผ่อนบ้าง
พ่อบ้านสลับสับเปลี่ยนทำความสะอาดให้กับลูกและเมียอย่างไม่รังเกียจ
บนเส้นทางของนักสู้ เขารู้ดีว่าสุดท้ายปลายทาง คือการลาจาก..ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย
เขาจะทำทุกวันให้ดีที่สุด
ปลายยอดเมรุ ควันสีเทาพวยพุ่งไปในอากาศ สิ้นสุดความเจ็บปวดทรมาณทางกาย
เหลือไว้แค่เพียงความทรงจำของคนที่ยังต้องอยู่ต่อไป..
บางครั้ง ความตาย อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับบางเรื่องและบางคน
และไม่ว่าอย่างไร .. ชีวิตหลังความตายของใครสักคน
อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใหม่ๆ ที่หนีไม่พ้นเรื่องการเกิด แก่ เจ็บและตาย