เก่าของใคร แต่ใหม่เสมอสำหรับฉัน แบ่งปันกันนะ..
การเป็น “ผู้ให้” ด้วยใจบริสุทธิ์ย่อมเกิด “ความสุขใจ” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะสิ่งที่เราได้ให้ไปนั้น เกิดประโยชน์และมีคุณค่าต่อ “ผู้รับ” แต่ก็มีหลายคนที่อาจจะมองว่า “การให้” หรือ “การบริจาค” สิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว หรือที่เรียกอีกอย่างก็คือ “ของเก่า” ที่เราไม่ต้องการ ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เพราะคำว่า “ของเก่า” หรือ “หรือที่ไม่ใช้แล้ว” นอกจากใจผู้ให้เองจะรู้สึกไม่ค่อยดี ยังกลัวผู้ได้รับต่อรังเกียจบ้างล่ะ และพาลคิดไปไกลเลยเถิด ว่าจะเป็นการทำบุญที่ไม่น่าจะได้บุญเต็มร้อยสักเท่าไหร่ ทำให้หลายคนที่คิดจะบริจาคสิ่งของแก่ผู้อื่น ต้องควักเงินไปซื้อหามาใหม่ แทนที่จะบริจาคของเก่าที่ไม่ใช้แล้ว หากเราไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มีทุนทรัพย์เหลือมากพอที่จะซื้อของใหม่ไว้คอยบริจาค ก็คงไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าต้องควักกระเป๋าแล้วทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนลำบาก ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่ จะกลายเป็น “ทำบุญกับผู้อื่น แต่ทำบาปกับตัวเอง” ไปซะอย่างนั้น
ความจริงก็คือ “ของเก่าของเรา จะเป็นของใหม่ของอีกคนเสมอ” ไม่ว่าจะตกไปอยู่ในมือผู้รับคนไหนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้รับเป็นผู้ที่ด้อยโอกาส ยากจน ไม่มีเงินมากพอสำหรับซื้อของเหล่านั้น มันจะเป็นของที่มีคุณค่ามากต่อผู้ที่ต้องการใช้ทันที มันอาจจะทำให้ผู้รับได้สร้างงาน มีโอกาสที่จะมีชีวิตใหม่ ๆ ชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน จากของที่เราบริจาคทานไปก็เป็นได้ เหมือนเรากำลังส่งต่อน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตให้กับอีกชีวิต ที่ยังคงรอความหวังจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สิ่งของนั้นแม้อยู่กับเราดูเหมือนไร้คุณค่า แต่หากไปอยู่กับอีกคน อาจจะมีคุณค่ามากกว่าที่เราคิด
“การแบ่งปัน” อบอวลและเชื่อมร้อยน้ำใจมนุษย์ตลอดมา นับตั้งแต่โลกนี้ได้ถือกำเนิดขึ้น และการแบ่งบันก็ทำให้สังคมของเรางดงามและน่าอยู่มากขึ้น เพราะมันหมายถึง การที่เรารู้จักเสียสละสมบัติอันเป็นของตนเองให้กับผู้อื่น โดยไม่ยึดติดกับของนอกกาย เพราะต่อให้เราไม่บริจาคออกไป ไม่แน่ว่าอีก 5 ปีข้างหน้า หรือ 10 ปีข้างหน้า ของสิ่งนั้นก็อาจจะยังตั้งวาวอยู่ในบ้านอย่างเดิม หรือผุพังไปตามกาลเวลา จนต้องทิ้งลงถังขยะไปในที่สุด สู้แบ่งปันให้กับผู้อื่นที่เขาจะได้ใช้ประโยชน์จากมันไม่ดีกว่าหรือ
โลกเราใบนี้ยังมีทั้ง…คนที่มีมาก คนที่มีน้อย คนที่แทบไม่มีอะไรเลย และคนที่ไม่มีอะไรเลย นั่นคือความจริงที่ไม่ต้องรอการพิสูจน์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องรอวันเป็นผู้ที่มีมากจนเหลือเฟือเสียก่อนถึงจะแบ่งปันได้ เพราะแม้เราจะมีน้อย หรือเป็นแทบไม่มีอะไรเลย เราก็เป็น “ผู้ให้” ได้เช่นกัน เพราะคนที่…ไม่มีอะไรเลยก็ยังมีอยู่
ในโอกาสดีปีใหม่นี้ “มูลนิธิกระจกเงา” อยากชวนมาร่วมทำบุญด้วยกันแบ่งปัน ซึ่งเป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้ให้จะมีความสุข ความยินดีปรีดา ซึ่งทางมูลนิธิเปิดรับการแบ่งปันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญของเล่นสำหรับเด็ก ๆ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องครัว โต๊ะเก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ รวมถึงอาสาสมัครที่จะช่วยรับของบริจาคในช่วงวันหยุดปีใหม่ ไม่ว่าจะวันหยุดหรือวันไหน ๆ ทางเราได้เตรียมพื้นที่ไว้เพื่อรองรับของบริจาคจากทุกท่านเพื่อส่งต่อให้กับอีกหลาย ๆ คนที่ยังรอคอยความหวัง และของขวัญปีใหม่ที่มีคุณค่าต่อชีวิตและต่อหัวใจอยู่เสมอ
ไม่ต้องคิดอะไรมากนะ ถ้าเธออยากจะให้ก็ให้เถิด เพราะผู้รับเองก็อยากจะบอกว่า “ของเก่าของเธอ แต่ใหม่เสมอสำหรับฉัน”….