ปัญหา “คนไร้ที่พึ่ง” ในระบบคุ้มครองของรัฐ

“57 บาท ต่อคนต่อวัน” นี้คืองบประมาณที่รัฐจ่ายให้เพื่อดูแลกลุ่มคนที่เรียกว่า “คนไร้ที่พึ่ง” ตาม พรบ.คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง (สถานสงเคราะห์) ของทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
.
สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในประเทศนี้มีอยู่ทั้งหมด 11 แห่งทั่วประเทศ มีภารกิจหลักคือการดูแลกลุ่มคนไร้ที่พึ่ง คนไร้ที่พึ่งที่นิยามโดยสรุปอย่างง่ายๆ ก็คือ คนที่ไม่สามารถดูแลจัดการชีวิตตัวเองได้ ทั้งในทางเศรษฐกิจและสังคม
.
ในวันที่ทีมงานผู้ป่วยข้างถนน มูลนิธิกระจกเงาได้แวะเวียนเยี่ยมเยียน สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งมาแล้วหลายแห่ง เราอยากจะรีวิวการไปเยี่ยมสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ให้กับหลายๆ คนได้รับรู้ว่า สิ่งที่เรียกว่าเป็นสวัสดิการของรัฐ ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น มันเป็นอย่างไรบ้าง
.
ข้างในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง คนที่อยู่ในสถานคุ้มครองนั้น เกินกว่า 70% เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่เรียกได้ว่าเรื้อรัง บางสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนั้น มีจำนวนผู้ป่วยจิตเวชสูงถึง 90% ขึ้นไป ยังไม่นับความทับซ้อนของความพิการทางร่างกายอื่นๆ ลงไป และยังไม่นับว่าส่วนใหญ่อยู่ในวัยผู้สูงอายุ
.
พูดถึงเรื่องการหลับนอน ทุกคนมีเบาะนอน แต่ไม่ใช่การนอนในแบบ 1 เบาะต่อ 1 คน ในบางทีต้องนำเบาะมาชิดกันเพื่อให้มี 1 คนมานอนตรงร่องกลางของเบาะที่นำมาชิดกัน ในบางที่ในบางแห่งต้องจัดการเบาะนอนเป็นสามแถว และนี่ยังไม่ได้พูดถึงว่า ผู้รับความคุ้มครองหลายต่อหลายคนเป็นคนพิการ เป็นผู้สูงอายุ การนอนเบาะแบบนั้น ทำให้ลุกขึ้นเดินเหินได้ยากเต็มที
.
คนในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในแต่ละที่ มีจำนวนคนรับการคุ้มครองล้น ล้นที่เรียกว่าเกินขีดความสามารถการดูแลของเจ้าหน้าที่ภายใน บางแห่งมากไปถึง 500 กว่าราย ซึ่งหลายสถานคุ้มครองฯ มีความสามารถรับคนเข้ารับการคุ้มครองจริงๆ อยู่ที่ประมาณ 300 กว่ารายเท่านั้น ความไม่สามารถนั้น เกิดมาจากงบประมาณที่จำกัด จำนวนบุคลากรที่จำกัด ทรัพยากรที่จำกัด
.
ในหลายๆ สถานคุ้มครองฯ นั้น มีปัญหาขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทาง เฉพาะด้าน เช่น ไม่มีนักจิตวิทยาวิชาชีพ ทั้งๆ ที่มีผู้ป่วยจิตเวชอยู่เกินกว่า 70-80% ด้วยซ้ำ ไม่มีพยาบาล ทั้งๆ ที่มีจำนวนเคสที่มีแนวโน้มในปัญหาโรคทางกายอยู่ไม่น้อย ไม่มีนักกายภาพบำบัด ทั้งๆ ที่มีคนพิการทางร่างกายอยู่เกินครึ่งค่อน
.
ที่ซ้ำร้ายเข้าไปอีกก็คือ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งไม่สามารถส่งคนไร้ที่พึ่งเพื่อให้ได้รับบริการในสถานสงเคราะห์ ตามความเฉพาะได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแห่งหนึ่ง มีผู้สูงอายุมากกว่า 100 คน แต่ไม่สามารถส่งผู้สูงอายุนั้นให้ได้รับบริการในสถานสงเคราะห์ที่ดูแลผู้สูงอายุโดยตรงได้ เช่นเดียวกันกับกลุ่มคนพิการที่ไม่สามารถส่งไปยังสถานสงเคราะห์คนพิการได้
.
ทั้งๆ ที่ในกฎหมายของผู้สูงอายุ ก็บอกไว้ว่า ในความเป็นผู้สูงอายุนั้น สวัสดิการอย่างหนึ่งที่รัฐจัดให้ คือการได้เข้ารับดูแลในสถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ เช่นเดียวกันกับคนพิการ ทั้งๆ ที่กฎหมายระบุไว้ว่าสวัสดิการอย่างหนึ่งที่คนพิการสามารถเลือกรับได้ก็คือ การเข้ารับการดูแลในสถานสงเคราะห์คนพิการ ซึ่งหลายๆ รายที่รอการเข้ารับการดูแลตามกฎหมายเฉพาะนั้น ก็เสียชีวิตไปก่อนที่จะได้รับบริการตามที่สิทธิ์ในฐานะพลเมืองที่เขาควรได้ ความล่าช้าของการได้มาซึ่งสิทธิที่ควรมีควรได้นั้น นับได้ว่าเป็นความอยุติธรรมแบบหนึ่งนั้นเอง
.
ในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เมื่อไม่สามารถส่งคนไปเข้ารับบริการตามกฎหมายเฉพาะอย่าง ผู้สูงอายุและคนพิการได้นั้น ความอัดแน่น ความไม่สามารถดูแลคนที่อยู่ในการคุ้มครองได้นั้น จึงเกิดขึ้นในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในทุกแห่ง และในข้อเท็จจริงที่สำคัญก็คือ คนที่อยู่ในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนั้น ไม่ใช่ประสบปัญหาทางสังคมเพียงอย่างเดียว พวกเขาเป็นคนป่วยทั้งทางจิตและทางกาย เป็นคนพิการ เป็นผู้สูงอายุ
.
เอาเข้าจริง หลายๆ คนมีความซ้ำซ้อนของทุกอย่างที่กล่าวมา และประเด็นสำคัญก็คือ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งมีเคสที่หลากหลายทับซ้อนมาก แต่ได้รับงบประมาณและทรัพยากรในการบริหารจัดการภายในที่ต่ำอย่างมาก ทั้งๆ ที่ควรได้รับงบประมาณและทรัพยากรที่เป็นเสมือนโรงพยาบาลด้วยซ้ำไป
.
เราเคยถามว่าความต้องการของคนไร้ที่พึ่ง ที่ว่าพวกเขาต้องการอะไร ในส่วนที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชอย่างหนักอาจไม่สามารถตอบได้ แต่สำหรับหลายๆ คนมักให้คำตอบอย่างง่ายๆ ว่า เขาอยากให้ครอบครัวมาเยี่ยมเขาบ้าง อยากกลับไปอยู่กับครอบครัวก็มี ในบางคนอยากจะออกไปทำงานมีรายได้ แต่ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็คือ ทรัพยากรที่รัฐจัดสรรให้กับสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนั้น ไม่สามารถทำให้ฝันของคนที่อยู่ในสถานคุ้มครองฯบรรลุเป็นจริงได้อย่างแน่นอน
.
ไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ค่าอาหารที่เขาตั้งไว้ให้ต่อคนต่อวันอยู่ที่ 57 บาทนั้น ก็เห็นได้อยู่ว่ารัฐเห็นใจ ใส่ใจ และเข้าใจหรือไม่ว่าสิทธิ์การมีคุณภาพชีวิตที่ดีนั้นควรเป็นพื้นฐานของทุกคนที่ควรได้รับจากรัฐอย่างปฏิเสธไม่ได้ เป็นจริงอยู่หรือไม่

——————————

ปล.ภาพรองเท้าแตะ คือรองเท้าแตะของผู้รับการคุ้มครองในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแห่งหนึ่ง ซึ่งรองเท้าแต่และคู่นั้นมีความพยายามทำเครื่องหมายไว้ เพื่อให้รู้ว่าคู่ไหนเป็นของใคร
.
รีวิว สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และ ตัวอย่างของการจัดสวัสดิการของรัฐ โดย โครงการผู้ป่วยข้างถนน มูลนิธิกระจกเงา

Share Button