ดวงตาของยายไร้บ้านที่อยู่ห่างไกลการรักษา

เป็นคนไร้บ้านอยู่ข้างถนนมามากกว่า 20 ปี แต่ที่ไม่แน่ใจก็คือไอ้โรคที่ดวงตาขวาของแกนั้นมีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่ และมันนับได้เป็นปีที่เท่าไหร่ของชีวิตไร้บ้านของแก รู้แต่เพียงว่าเมื่อต้นปี 65 ที่ผ่านมา มันเริ่มแย่ขึ้น เพราะรอบตา มันบวมแดง อักเสบ รู้สึกเจ็บข้างในลูกตา
.
มีวันหนึ่งช่วงเกือบกลางปี 65 มีอันธพาลมารีดไถเงินแก เมื่อแกไม่มีให้ มันก็ทำร้ายร่างกายเอา ต่อยเข้าที่ตา ทุบเข้าที่หัว แผลที่ดวงตาก็เริ่มแย่และเจ็บมากขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
.
แกเล่าว่าแกไปรักษาที่โรงพยาบาลอยู่ ไปล้างแผล ไปทำแผล แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนเกือบปลายปี ตาข้างขวามันบวมรุนแรง แผลเริ่มอักเสบ ลูกตาเหมือนจะหลุดออกมาจากเบ้า เวลาของการนอน ถแกต้องนั่งนอนเพื่อลดทอนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นถ้าต้องนอนในท่านอนราบกับพื้น
.
แกยังคงไปหาหมออยู่บ้าง ไปบ้างเมื่อมันเริ่มเจ็บปวดมากเกินทนทาน แกบอกกับเราว่าแกไม่อยากไปหาหมอ ไม่ใช่ไม่อยากหาย แต่มันเจ็บปวดเกินจะทนทาน ในตอนที่หมอทำการล้างแผลให้แก “มันเหมือนโดนหินเอามากระแทกที่ตา หมอมือหนักอย่างกับหิน” แกพยายามอธิบายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นตอนถูกล้างแผลให้เราฟัง
.
สุขภาพจิตแกก็แย่ลงตามไปด้วย แย่จากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับแกในทุกวัน อารมณ์วีนเหวี่ยง ร้องไห้ เกิดขึ้นตลอด ไม่ว่าจะเป็นพวกเรา ทีมงานผู้ป่วยข้างถนน คนที่เข้าไปถามไถ่แก ไม่เว้นแม้แต่หมอพยาบาลก็ถูกแกวีนถูกแกเหวี่ยงใส่
.
“เจ็บมากๆ เลยหนู ยายจะอยู่ถึงปีหน้ามั้ย เจ็บจนอยากจะตาย” ประโยคที่เป็นทั้งคำอุทธรณ์และระดับของความเจ็บปวดที่แกได้รับอยู่
.
เราปลอบประโลมและพยายามชักชวนให้แกไปหาหมอดีกว่า และกว่าที่แกจะยอมไปก็ใช้เวลาไม่น้อย แกยอมมาโรงพยาบาลด้วยกันกับเรา เมื่อหมอเมื่อพยาบาลเห็นแก ก็เดินเข้ามาหาทันที ทักทายแกเหมือนญาติสนิทคนหนึ่ง หมอและพยาบาลต่างเล่าให้พวกเราฟังว่า แกมาหาที่โรงพยาบาลบ่อย มาทำแผลรับยา แต่แกไม่เคยมาตามนัดหมายที่ทางหมอทำนัดให้เลย ซึ่งหมอคาดว่าแกอาจเป็นมะเร็งที่ประสาทตา
.
แกเจ็บ แกกลัวการมาหาหมอ ประกอบกับค่ารถที่แกไม่สามารถหามาได้ การเดินทางจากสุดฝั่งหนึ่งของกรุงเทพที่แกนอนไร้บ้านอยู่ มายังโรงพยาบาลที่นัดหมายแกไว้ในอีกสุดฝั่งตรงข้ามของกรุงเทพ มันเป็นเหตุผลเพียงพออยู่ พอเพียงต่อการไม่ได้มาตามนัดหมายของหมอเพื่อจะได้รักษาตาของแกได้อย่างต่อเนื่อง
.
วันนี้เราพาแกมาหาหมออีกครั้งตามที่หมอนัดหมาย ทั้งหมอทั้งพยาบาลดูมีท่าทีพึงพอใจเป็นอย่างมากที่แกมาหาหมอได้ตามที่นัดหมายสักที หมอบอกพวกเราว่า “ดีมากๆ เลยที่แกได้มาตามนัดหมายสักที” แต่สิ่งที่เรายังดีใจไปไม่สุดก็เป็นเรื่องที่แกยังไม่ยอมเข้าไปในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางรัฐเขาจัดไว้ให้
.
พวกเราได้วางแผนดูแลแก เพื่อจะพาแกให้สามารถไปเข้าสู่การรักษาให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โรคที่แกเป็นอยู่มันทุเลาเบาบางขึ้น อาการดีขึ้นเป็นลำดับ สุขภาพกายดีขึ้นสุขภาพจิตก็ดีขึ้นตามมา พวกเรากำลังทำหน้าที่เสมือนการสร้างเส้นทางเฉพาะกิจเพื่อเชื่อมโยงคนป่วยที่ไม่สามารถเข้าสู่การรักษาได้ด้วยเงื่อนไขบางอย่างให้สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาได้ไวขึ้น สะดวกขึ้น ต่อเนื่องขึ้น
.
แต่เราหวังไว้ว่า สักวันเส้นทางหลักจะมีเกิดขึ้น ผู้ป่วยข้างถนนที่มีเงื่อนไขพิเศษแบบยาย จะสามารถเข้าสู่การรักษาได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น โดยมีเส้นทางที่เหมาะสมกับบริบทของผู้ป่วยที่คล้ายกับแก โดยมันถูกสร้างขึ้นจากระบบการรักษาของรัฐเอง มีการขยับระบบการรักษาเข้ามาให้ใกล้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้ชิดขึ้น ความห่างไกลจากการเข้าสู่การรักษานั้นก็คงจะน้อยลงไปได้เอง เราหวังว่าทางพิเศษที่เราสร้างขึ้นตอนนี้จะเป็นทางที่รกร้างไม่มีใครใช้อีกต่อไปในอนาคต
.
ถ้าไปถึงวันนั้น เราทางทีมงานผู้ป่วยข้างถนน มูลนิธิกระจกเงา จะนับว่ามันเป็นความสำเร็จได้อย่างเต็มภาคภูมิเลยทีเดียว
——————————————-
สนับสนุนการทำงานได้ที่
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่บัญชี 202-2-58289-4 SCB
Share Button