ทะเลเชื่อมความสุขสู่ “ผู้ป่วยเด็ก”

เด็กป่วยทางกาย อย่างน้อย
เรายังรู้ว่าเขาเจ็บป่วยตรงไหน
.
เด็กป่วยทางจิตใจ เด็กอธิบายไม่ได้
กว่าเราจะมองเห็นความผิดปกตินั้น
เขาต้องเผชิญความป่วยลำพัง
ต่อสู้กับความคิดของตัวเอง
.
ทำไมทุกคนรำคาญ โดนดุมากกว่าเพื่อน
ไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อน คุณครู
หรือแม้แต่ของพ่อแม่ตัวเอง
.
ตัวอย่างเด็กเหล่านี้ คือเด็กกลุ่มสมาธิสั้น
เด็ก LD ที่มีพัฒนาการทางสมองช้า
.
เด็กกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแล
ประคับประคอง อดทน และเข้าใจ
.
โครงการโรงพยาบาลมีสุข
กำลังทำงานสร้างสุข ให้กับเด็กกลุ่มนี้
.
วันพรุ่งนี้เราจะพาเด็กป่วย 10 ครอบครัว
คัดเด็กที่อาการป่วยไม่เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยว
พาไปเล่นน้ำทะเลด้วยกัน
โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไปด้วย
.
ให้ทะเลเชื่อมความสุขให้กับเด็กและครอบครัว
ให้กิจกรรมนี้ บอกเด็กๆ ทางอ้อมว่า
เขามีคุณค่า สมควรได้รับการดูแล
แล้วเราจะประคับประคองกันไป
.
สนับสนุนกิจกรรมพาเด็กป่วยเที่ยวทะเล
ได้ที่บัญชีโครงการโรงพยาบาลมีสุข
เลขที่ 202-258286-0 ธ.ไทยพาณิชย์

Share Button

ครอบครัว “น้องธันวา” กับชีวิตก่อนพบทะเล

“มาแข่งกัน ใครวิ่งถึงทะเลก่อนคนนั้นชนะ”
เสียงแจ้วจากสองพี่น้อง “ธันวา” และ “อชิ”
.
นี่เป็นการมาทะเลครั้งแรกของทั้งคู่ นอกจากเอนตัวแช่น้ำให้คลื่นซัด การให้เท้าแตะทรายนุ่มเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เด็กๆ ตั้งหน้าตั้งตารอ
.
ธันวา เป็นพี่ชาย
เขามีพัฒนาการทางสมองช้าเมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน สมองที่พิการทำให้เขาคิดอ่านต่างจากคนอื่น
.
ธันวา อ่านเขียนได้บ้างไม่ได้บ้าง บางครั้งแสดงอาการหงุดหงิด เอาแต่ใจ แบบไม่รู้ตัว กลายเป็นความรำคาญ ไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับคนรอบข้าง ทำให้ธันวาไม่ชอบไปโรงเรียนและไม่กล้าเข้าสังคมกับคนอื่นๆ
.
อชิ ที่เป็นน้องสาว จึงต้องรับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดประจำตัว เธอจะคอยบอก คอยเตือน คอยเล่นเป็นเพื่อน ช่วยแม่ดูแลพี่ชายเสมอ เพราะถึงจะยังเล็ก แต่อชิเข้าใจในอาการที่พี่ชายเป็น
.
แม่มักบอกอชิ ว่า “ให้อยู่ข้างๆ พี่ เพราะแม่เชื่อว่าพี่ธันวามีโอกาสหาย หรือถ้าวันไหนแม่เป็นอะไรไป แม่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว สองพี่น้องต้องคอยดูแลกันและกัน”
.
อชิรู้ว่าแม่พยายามทำงาน ด้วยการออกขับวินมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ทำงานวันละ 17 ชั่วโมง เพื่อเก็บเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลให้พี่ธันวา
.
เพราะตั้งแต่พี่ธันวาป่วย ต้องจ่ายเงินค่ายาหลายอย่าง เธอเห็นแม่พาพี่เทียวเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อรักษาไม่ต่ำกว่าสิบรอบ ในระหว่างนั้นแม่ก็ต้องทำงานขับวินไปพร้อมกัน การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงดูเด็กสองคน ซ้ำหนึ่งคนพิการทางสมองนั้นไม่ง่าย อชิจึงพยายามช่วย เป็นแรงเล็กๆ แบ่งเบาภาระให้แม่บ้าง
.
เงินเดือนของแม่ทั้งหมด ต้องเก็บไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น ทั้งค่าเช่าบ้าน น้ำ ไฟ และค่ารักษาแผนกจิตเวชเด็ก การไปเที่ยวเล่นข้างนอกเลยไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
.
นอกจากวันไหนเป็นวันเกิดหรือโอกาสพิเศษ แม่จะหยุดงานพาเด็กๆ ไปให้อาหารปลาที่วัดใกล้บ้าน เป็นการเที่ยวแบบฉบับที่กำลังทรัพย์ของครอบครัวพอเอื้อมถึง
.
ปลายเดือนที่แล้ว โครงการโรงพยาบาลมีสุข ชวนครอบครัวน้องธันวา และครอบครัวเด็กป่วยแผนกจิตเวชอีก 10 ครอบครัว ไปสัมผัสลมทะเล ณ หาดบางแสนเป็นครั้งแรก
.
ถึงจะเป็นการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ แต่รอยยิ้มที่แต้มใบหน้า และเสียงหัวเราะจากเด็กๆ จะยังดังก้องไปอีกพักใหญ่ เป็นกำลังใจของเด็กๆ และครอบครัว ให้เด็กป่วยทางใจได้รับรู้ว่าเขามีคุณค่า สมควรได้รับการดูแลจากทั้งครอบครัวและสังคม
.
หากคุณมีที่พัก ร้านอาหาร หรือพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม พร้อมเปิดรับเด็กๆ เราอยากชวนคุณเป็นส่วนหนึ่งในการโอบรับเด็กป่วยด้วยความรัก
ดูแลประคับประคองพวกเขาไปพร้อมกันกับเรา
ติดต่อได้ที่ 061-909-1840
.
สนับสนุนกิจกรรมสร้างความสุขลดความทุกข์ให้เด็กป่วย
ได้ที่บัญชีโครงการโรงพยาบาลมีสุข
เลขที่ 202-258286-0 ธ.ไทยพาณิชย์

Share Button

ระยะทาง 600 บาท ระหว่างผู้ป่วยตัวน้อยกับสุขภาพที่ดี

น้องกระต่ายอายุเพียง 3 ขวบ
แต่ใช้เวลามาแล้ว 1 ปี
ในการเดินทางมารักษาตัว
ด้วยโรคเรื้อรังที่โรงพยาบาล
.
น้องกระต่ายอาเจียนไม่ทราบสาเหตุ
วันละหลายรอบ
จนร่างกายไม่ตอบรับอาหาร
.
หมอตรวจร่างกาย ส่งตรวจชิ้นเนื้อ
ตรวจสารเคมีในสมอง
แต่ยังหาวิธีรักษาให้หายขาดไม่ได้
ทำได้ดีที่สุดคือรักษาตามอาการ
น้องจึงต้องมาโรงพยาบาลต่อเนื่อง
.
แม้การรักษาพยาบาล
จะใช้สิทธิบัตรทองไม่เสียเงิน
แต่ทุกครั้งที่มาโรงพยาบาล
แม่ ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน
ต้องหาเงินครั้งละ 600 บาท
เป็นค่าแท็กซี่พาน้องกระต่ายมาหาหมอ
.
โครงการโรงพยาบาลมีสุข มูลนิธิกระจกเงา
จึงสนับสนุนค่าเดินทางให้ครอบครัวนี้
และเรามีแผนสนับสนุนค่าเดินทาง
ให้ครอบครัวเด็กป่วยอีกจำนวน 10 ครอบครัว
.
เพราะค่าเดินทางที่สูง
เกินกว่ากำลังครอบครัวจะแบกรับ
มักเป็นสาเหตุต้นๆ
ที่ทำให้เด็กป่วยหลายคนตัดขาดจากการรักษา
.
ร่วมสนับสนุน ค่าเดินทางเพื่อเด็กป่วย
ได้ที่ บัญชีโครงการโรงพยาบาลมีสุข
เลขที่ 2022582860 ธ.ไทยพาณิชย์
.
หรือ สนับสนุนผ่านเว็บไซด์เทใจดอทคอม
https://taejai.com/th/d/seeadoctor/
(บริจาคผ่านเทใจสามารถลดหย่อนภาษีได้)

Share Button

ในห้องเล็ก ๆ กล่องของขวัญเพื่อเด็กป่วยถูกห่อด้วยมือของอาสาสมัครผู้พิการ

มุมเล็กๆ บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล
มีชีวิตน้อยๆ ของเด็กป่วยเรื้อรังต้องพักรักษาตัว
ไม่มีโอกาสเที่ยวเล่นในเทศกาลแห่งความสุข
ที่กำลังจะมาถึง
.
แต่ถึงอย่างไร เด็กป่วยก็ยังเป็นเด็ก
ในยามที่ต้องฉีดยา เจาะสายน้ำเกลือ
การได้รับของขวัญสักชิ้น ตุ๊กตาสักตัว
จะเป็นความสุขเล็กน้อย
ที่ทำให้อุ่นใจมากขึ้นหลายเท่า
.
อีกมุมเล็กๆ ในห้องอาสาสมัคร มูลนิธิกระจกเงา
จึงมีกลุ่มผู้พิการ มาเป็นอาสาสมัคร
ช่วยกันห่อของขวัญ เตรียมส่งไปเซอร์ไพรส์
เป็นกำลังใจให้เด็กๆ ถึงโรงพยาบาล
.
อาสาสมัครเหล่านี้ส่วนหนึ่งพิการทางสมอง
เข้าออกโรงพยาบาลมาตั้งแต่เกิด
ส่วนหนึ่งพิการทางการเคลื่อนไหว
ต้องไปรับยา ติดตามอาการตลอดชีวิต
.
พวกเขาเคยผ่านการเจ็บป่วย
และยินดีสละเวลาช่วงวันหยุด
มาช่วยเติมเต็มความสุข
ให้กับเด็กๆ ที่กำลังเผชิญกับความป่วยเช่นเดียวกัน
เพราะพวกเขาเข้าใจดีกว่า การได้รับความสุข
ในช่วงเวลาที่กำลังเจ็บป่วยนั้น สำคัญเช่นไร
___________________________________
ขอบคุณทั้งหัวใจและแรงกาย
จากกลุ่มอาสาสมัครผู้พิการจาก สสส.
ที่เป็นส่วนหนึ่ง ทำให้เทศกาลแห่งความสุข
ของน้องๆ เกิดขึ้นได้จริง
.
ของขวัญทั้งหมด
โรงพยาบาลมีสุข จะเป็นตัวแทนนำส่งให้เด็กป่วย
ในกิจกรรมของขวัญปีใหม่ ส่งใจให้เด็กป่วย ปีที่16
ไปยังโรงพยาบาลเครือข่ายและศูนย์การศึกษาพิเศษฯ
เพื่อให้ทั้งเด็กป่วย และผู้ปกครอง ได้รับรู้ว่า
ยังมีผู้ใหญ่ใจดีในสังคมอีกมากมาย
พร้อมช่วยเหลือ และส่งความปรารถดีให้เสมอ
.
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งของขวัญ
บริจาคตุ๊กตา ของเล่น ขนม ฯลฯ
เพื่อมอบให้เด็กในเทศกาลปีใหม่และวันเด็ก
ได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191
ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขต หลักสี่ กทม. 10210
โทร.061-909-1840, 063-931-6340
.
หรือบริจาคทุนทรัพย์ได้ผ่านทางเทใจดอทคอม
(การบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้)
บริจาคผ่านโครงการโรงพยาบาลมีสุข
เลขที่บัญชี 2022582860 ธ.ไทยพาณิชย์
Share Button