ในบ้านที่กำลังผุพัง เราซ่อมมันเพื่อให้เธอได้อยู่กับพ่ออีกครั้ง…

“สองเดือนได้แล้ว ที่พ่อต้องไปอยู่ศูนย์พักพิงสำหรับคนป่วย แกถามเราทุกวัน ว่าจะได้กลับบ้านกันตอนไหน แกอยากกลับบ้านแล้ว”
.
“พ่อแกอายุ 80 ติดเตียงมาตั้งแต่ปี 2547 แขนขาหงิกงอ เหยียดออกไม่ได้ ทำอะไรเองไม่ได้ ตอนน้ำเริ่มมาแรกๆ เราคิดว่ามันจะท่วมไม่หนัก เพราะบ้านเราเจอน้ำท่วมทุกปีมันก็ไม่เคยสูงเกินชั้นสอง เราเลยย้ายพ่อหนีน้ำจากชั้นหนึ่งขึ้นชั้นสอง ส่วนของในบ้านก็เอาขึ้นไปผูกไว้กับขื่อ”
.
“แต่เราคิดผิด น้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมาปริ่มตรงเตียงพ่อ เลยให้คนรู้จักเอาเรือมารับ ขอให้เขาพาพ่อไปศูนย์พักพิงก่อน แล้วให้ลูกชายเราที่อยู่มัธยม 5 ตามไปเฝ้า ส่วนตัวเราหาเศษแผ่นไม้มาสร้างเพิงตรงเนินข้างบ้าน เพราะบ้านเรายังอยู่ตรงนี้ มันต้องมีคนเฝ้าบ้าน”
.
“เราอยู่ตรงเนินข้างบ้าน ตั้งแต่วันที่น้ำมิดหลังคา เทียวไปเทียวมาเฝ้าพ่อกับเฝ้าบ้าน เป็นอย่างนั้นสักพักจนน้ำเริ่มลดลงครึ่งนึง ตอนนั้นก็เริ่มเห็นสภาพบ้าน บ้านที่พ่อกับเราช่วยกันสร้าง มันพังไปหมด สังกะสีหลุด แผ่นไม้หลุด เหลือแต่โครง ความรู้สึกตอนเห็นคือมันอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ มันอึดอัดอยู่ในใจ ถึงขั้นอยากจะโดดน้ำมูลตายไปเลย”
.
“ของใช้ในบ้านมันก็ไม่เหลือ บ้านเราอยู่ติดริมน้ำมูล พอน้ำมันซัดของก็ไหลออกไปในแม่น้ำ เราก็ไปขอยืมเรือพายคนรู้จักอีกรอบ รอบนี้เอามาพายเก็บของ มันไม่มีทางเลือกเพราะของแต่ละอย่างมันไม่ใช่ถูกๆ ไม่ได้ซื้อมาง่ายๆ ที่เก็บได้ก็เอามาเช็ดมาล้าง ส่วนที่เก็บไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้มันลอยหายไป”
.
“หลายคนเขาก็พูดกับเรา ว่าให้เราถมที่ให้มันสูงขึ้น น้ำจะได้ไม่ท่วมหนัก เพราะบ้านเราเป็นลุ่มต่ำกว่าบ้านอื่นๆ บางคนก็ว่าให้เราย้ายไปอยู่ที่อื่น เราก็อยากจะทำอยู่หรอก แต่ขาดอย่างเดียวคือเงิน จะทำอย่างเขาว่า มันก็ต้องใช้เงิน ลำพังหารับจ้างทั่วไปอย่างเราไม่ได้มีเงินมากมาย ยิ่งมาตอนนี้อีกแทบจะไม่มีรายรับเลย”
.
“เราเคยทำงานรับจ้างล้างจานอยู่ร้านอาหาร แต่พอน้ำมันท่วมมันเดินทางยาก ก็ไปทำงานไม่ได้ ป่านนี้เขาคงให้เราออกแล้วเพราะเราขาดงานมานาน ก็เหลือแต่เบี้ยคนแก่ คนพิการของพ่อ ที่พอจะได้จ่ายได้ซื้อข้าวกินกัน”
.
“วางแผนไว้ว่า ถ้าน้ำลดหมดแล้ว เราจะรีบล้างทำความสะอาดให้พ่อได้กลับมาอยู่ นอนกันตรงพื้นไม้ที่ยังไม่ผุไปก่อน เพราะตอนนี้เรายังไม่มีเงิน ได้แต่บอกพ่อไว้ว่าให้อดทนรออีกหน่อย หนูจะไปหารับจ้างเด็ดพริก เด็ดผัก เก็บเงินมาซ่อมบ้านเรา แต่หนูขออย่างเดียว ขอให้พ่ออยู่รอจนถึงวันนั้น”
———————————————
ป้าพิศ วัย 59 ปี ผู้ประสบอุทกภัย
ที่ยังต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง
———————————————
เนื่องจากบ้านของป้าพิศ เป็นที่ลุ่มน้ำขัง
ทีมอาสาล้างบ้านจึงนำเครื่องสูบน้ำ
ช่วยกันสูบน้ำออกจากบ้านของเธอ
จากนั้นเราเข้าไปช่วยขัดล้างบ้าน
เพื่อรอต้อนรับพ่อของเธอที่ป่วยติดเตียง
.
และเรามีแพลนจะช่วยเธอซ่อมบ้าน
ให้ครอบครัวของเธอพออยู่ได้
ไม่ต้องทนนอนหนาวในบ้านที่ไม่มีผนังบังกาย
บนพื้นไม้ที่กำลังผุพังลงทุกที
.
ข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ ที่เราได้รับบริจาค
จากโครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง
จะมาเติมเต็มให้กับบ้านของป้าพิศ และครอบครัว
.
สนับสนุนภารกิจอาสาล้างบ้านและซ่อมบ้าน
ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ
ได้ที่บัญชี กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์
.
หรือหากคุณเป็นบริษัท กลุ่มองค์กร
หรือในโครงการกิจกรรม CSR
ประสงค์จะช่วยเหลือในงานซ่อมสร้างบ้าน
สามารถติดต่อเราได้ที่
0619091840 , 0639316340
Share Button