1000 คนต่อมื้อ : ณ ครัวกลางของผู้ประสบภัย

ถ้าคุณไม่ได้นอนที่บ้านมาแล้วหนึ่งเดือน
หรือคุณนอนในเต็นท์ที่ไม่ใช่การแคมป์ปิ้ง
แต่คือศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ใช้ห้องน้ำแบบผ้าใบบางๆ ล้อมรอบ
คุณอาจไม่มีแก่ใจตื่นมาหุงข้าวต้มไฟ
เพราะจานชามหม้อไห ยังจมน้ำที่ห้องครัว
.
และถ้าเมนูวันนี้ คือ
แกงจืดต้มฟัก ผัดวุ้นเส้นใส่ไข่
ตามด้วยเมนูของหวานกล้วยบวชชี
มีนมโฟร์โมสต์ และน้ำปลาร้า แถมให้ด้วย
อาจเพิ่มความสุขลดความทุกข์กับคุณได้บ้าง
.
มื้อเย็นนี้ที่ จุดพักพิงชั่วคราวกุดระงุม
อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ครัวกระจกเงาเคลื่อนที่ ออกให้บริการ
อาหาร น้ำดื่ม นม และของหวาน
.
เราทำแบบนี้ทุกวัน
ทั้งโรงครัวชั่วคราวและโรงครัวเคลื่อนที่
ในพื้นที่ประสบอุทกภัย อุบลราชธานี
วันละ 3 มื้อเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้าถึงสามทุ่ม
ดูแลให้พี่น้องอิ่มท้องมากกว่าพันคนต่อมื้อ
.
สามารถร่วมสนับสนุนครัวกลาง มูลนิธิกระจกเงา
ซื้อข้าวสาร เครื่องปรุง เนื้อสัตว์
น้ำดื่มสะอาด และของใช้อุปโภคบริโภคจำเป็นอื่นๆ
ได้ที่บัญชี กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์
.
หรือสามารถบริจาคเป็นข้าวสารอาหารแห้ง
มาได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191
ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขต หลักสี่ กทม. 10210
โทร.061-909-1840, 063-931-6340
Share Button

บ้านที่กลับไม่ได้ของผู้ประสบภัยชาวอุบล

อยู่ที่นี่มาแล้วหนึ่งเดือน
กินตรงนี้ นอนตรงนี้ ที่เดียวกัน
.
ผ้าใบบอบบางเกินกว่า
จะกันไอแดดตอนกลางวัน
กันลมหนาวในยามกลางคืน
.
เปียกปอนทุกครั้งที่ฝนลงเม็ด
และไม่ให้ความปลอดภัยใดๆ
ต่อเด็ก สตรี และทรัพย์สินที่ติดตัว
แต่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่
.
ข่าวรายงานสถานการณ์น้ำลด
แต่เป็นน้ำลดจากถนน
บ้านคนยังคงท่วมอยู่
กลายเป็น “บ้านที่กลับไม่ได้”
.
กระทั่งหากน้ำลดลงแล้ว
บ้านอาจไม่อยู่ในสภาพพักอาศัย
การขัดล้างซ่อมแซม
เป็นภาระที่จะตามมา
.
อยู่ที่นี่มาหนึ่งเดือนแล้ว
ต้องอยู่ต่อไปจนบ้านน้ำลด
อาหารจึงยังเป็นสิ่งจำเป็น
จนกว่าจะได้กลับเข้าบ้าน
.
ถ้ายังไม่ได้กลับบ้าน
อย่างน้อยมีครัวกลางให้เขา
อาหารทำมีแรงขบคิดแก้ไขปัญหา
และทำให้มีชีวิตรอดเพื่อวันต่อไป
.
ที่นี่วารินชำราบ อุบลราชธานี
Share Button

สะท้อนชีวิตของผู้ประสบภัย ผ่านมุมมองอาสาสมัครคนหนึ่ง

“พอน้ำท่วมอุบลฯ หลายคนบอกว่าวิธีแก้ คือ ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นสิ ที่ที่น้ำไม่ท่วม แต่ชาวบ้านจริงๆเขาต้นทุนต่ำ จะจัดสรรพื้นที่ให้เขายังไงล่ะ จะให้ที่ดิน จะให้เช่าที่ หรือให้ที่ทำมาหากิน ไม่มีใครบอกว่าจะให้ทำยังไง มีแต่บอกให้ย้ายออกไป ไม่มีคำตอบให้เขา”
.
“ตอนน้ำเริ่มท่วม ผมไปช่วยชาวบ้านขนของออกมาจุดนึง ยังไม่ทันได้กางเต้นท์ กางผ้าใบเลย ต้องย้ายไปอีกจุด เพราะจุดที่ย้ายมาน้ำท่วมมาถึงแล้ว มันก็มีคำถามว่า ทำไมเขาไม่ย้ายไปที่สูงทีเดียวเลย เพราะเขาคิดว่าน้ำจะไม่สูงขนาดนั้นไง ข้อมูลน้ำที่ชาวบ้านได้รับจากทางการ มันไม่เป็นจริง ทำให้ชาวบ้านต้องย้ายหลายรอบ”
.
“วันนั้นทั้งฝนตก ทั้งน้ำขึ้นสูง นั่งพักเหนื่อยจากช่วยชาวบ้านขนของหนีน้ำ ผมเห็นพวกเขานั่งกินข้าวเหนียวกับน้ำปลา วันนั้นมันชุลมุนต้องรีบขนของหนีน้ำ ไม่มีใครเตรียมกับข้าวกินหรอก เลยคิดว่า ต้องมีครัวกลางคอยเตรียมอาหารให้ชาวบ้านที่อพยพหนีน้ำมา”
.
“ครัวกลางสำคัญ เพราะมันน้อยมากที่ชาวบ้านจะเตรียมอุปกรณ์ทำครัวมา เขาจะหยิบที่นอน เสื้อผ้ามาก่อน หรือของที่เขากังวลว่าจะเสียหาย แต่เขาไม่ได้ขนหม้อ ไห กระทะ มา น้อยมากที่คนจะทำกับข้าวกินเองที่ศูนย์พักพิง”
.
“ถ้าไม่มีครัวกลาง เขาต้องกินตามอัตภาพ ใครมาแจกอะไร ก็ต้องกินอย่างนั้น หลายคนที่ทำงาน เขาไม่ได้ลาออกจากงาน ก็จำเป็นต้องไปทำงาน การเดินทางสัญจรก็ลำบาก ไปทำงานช้าก็มีปัญหา ไม่มีเวลาทำอาหารหรอก เราจึงอยากทำครัวกลางขึ้นมาช่วยพวกเขา”
.
“ครัวกลางมันต่างจากที่เขาเอาของมาแจก เราจะทำอาหารสดใหม่ทุกมื้อ ของเราจะไม่เสีย ของแจกบางทีที่เราได้รับมา เขาทำแต่เช้าแล้ว กว่าจะมาถึงเรา อาหารมันบูดไปแล้วก็มี แล้วครัวกลางจะทั่วถึงกว่า ใครจะกินอะไรก็มาเลย อยากกินก็มาทำได้ แต่ขอแค่เอาไปกินเท่าที่อิ่ม ไม่ต้องเอาไปตุน มันต่างจากการเอามาแจก ถ้าของแจกโดยพฤติกรรมคนจะเอาไปกักตุนไว้ แต่ครัวกลางเขารู้ว่ากินแค่อิ่ม หิวก็เดินมากินอีกเพราะของมันไม่หมด”
.
“พอน้ำลด มันมีงานล้างบ้าน เพราะมันจมน้ำนาน ทำไมต้องช่วย ทำไมล้างบ้านเองไม่ได้ เพราะข้อแรกอุปกรณ์ราคาแพง มีเงิน 300 บาทได้อุปกรณ์มานิดเดียว บางคนก็ไม่มีแรงกำลังที่จะล้างบ้าน เช่น คนป่วย คนแก่ คนที่อยู่คนเดียว ต้องหยุดงานหลายวัน เพื่อไปล้างบ้าน เราก็จะไปช่วยเขา”
.
“บ้านผมก็น้ำท่วม เวลาเราล้างบ้านด้วยคนๆ เดียว กับช่วยกันหลายคน มันต่างกันมาก ถ้ามีหลายคนมาช่วย กำลังใจของชาวบ้านจะดี มีเพื่อนช่วยคิด ช่วยทำ จากที่คิดว่าจะต้องทำ 4 วันก็เหลือครึ่งวันจบ เขาก็มีเวลาไปทำอย่างอื่น”
.
“มาเป็นอาสาสมัคร ครอบครัวไม่เคยขัด พวกเขาดีใจที่เราทำแบบนี้ ทีแรกคนอื่นก็มองว่าผมสร้างคอนเท้นต์ ต้องการเรียกร้องความสนใจ แต่ผมไม่แคร์ ผมบอกเลยว่า ให้รอชม เพราะเวลาจะพิสูจน์ ผมทำต่อเนื่อง แม้แต่คนที่ว่าผมว่าทำคอนเท้นต์ ตอนนี้ยังมาขอความช่วยเหลือกับผม ผมก็ช่วยครับ ไม่มีปัญหาเลย”
.
“ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำงานอาสาสมัคร จะทำให้มีคนอย่างผมมากขึ้น จากคนที่ผมให้ความช่วยเหลือ เขาจะเปลี่ยนจากผู้รับมาเป็นผู้ให้ แล้วมันจะเกิดการผลักดัน ช่วยเหลือกันและกัน”
____________________________
โต้ง สถาพร ศรีแย้ม
อาสาสมัครครัวกลางและล้างบ้าน
พื้นที่ประสบอุทกภัย
อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
____________________________
กระจกเงากำลังเข้าสู่ภารกิจล้างบ้าน
มหกรรมฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำลดใกล้มาถึงแล้ว
ใครพร้อมเป็นอาสาล้างบ้าน
เตรียมตัวรอประกาศรับสมัครได้เลย!!
Share Button

“พวกเราจะกลับมา” คำสัญญาในความเงียบก่อนเรือยนต์จะขับผ่านไป

“ไปกันเถอะ”
ผมสะกิดบอกพี่ทีมงานอีกคน
เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไม่ถึงนาที
แทบไม่มีบทสนทนาอื่นเลย
ในห้วงเวลานั้น
.
สายตาพิจารณาภาพตรงหน้า
ใจคิดไปว่า มีคนจำนวนหนึ่งแล้ว
มาพูดคุย สอบถาม แสดงความเห็นใจ
แล้วขับเรือจากไปเหมือนที่เรากำลังจากไป
อะไรจะทำได้ดีกว่านั้นบ้าง
บางทีคำตอบตอนนั้นคือ ไม่มีจริงๆ
.
ความเงียบดำเนินไป
จนพี่คนขับเรืออาสา ตะโกนแซว
บอกชายบนหลังคาบ้านให้ “ชูมือสู้ๆ”
ทั้งชายขับเรือและชายบนหลังคา
รู้จักและตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
คือบ้านจมน้ำถึงชั้นสอง
.
เสียงเรือยนต์ดังขึ้นอีกครั้ง
พาพวกเราจากไปเพื่อกลับเข้าฝั่ง
มั่นใจว่าจะได้กลับมาบ้านหลังนี้อีก
จะมาพร้อมอาสาสมัครล้างบ้าน
และทีมช่างที่ช่วยซ่อมแซมบ้าน
มันหดหู่แต่ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง
ถ้าถึงวันนั้นเราจะบอกชายคนนี้ว่า
“พวกเรากลับมาแล้ว”

———————————————————

ใครพร้อมช่วยกัน วันที่ 5-6 พ.ย. 2565 นี้
กระจกเงาจัดกิจกรรมอาสาล้างบ้านรุ่นที่ 1
สนใจเข้าร่วม ดูรายละเอียดได้ที่�https://shorturl.asia/YejxB
.
หรือสนับสนุนภารกิจอาสาล้างบ้านและซ่อมบ้าน
ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ
ได้ที่บัญชี กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์

Share Button

ความเสียหายหลังน้ำลด ภาระที่หญิงชราต้องแบกรับ

“ก่อนน้ำมา มีคนช่วยขนของขึ้นชั้นสอง ตอนแรกยายก็คิดว่าจะไปกางผ้าใบอยู่ศูนย์พักพิงดีมั้ย ตัวยายก็เดินเหินไม่คล่อง ห้องน้ำก็ไม่สะดวก ไม่รู้จะไปหานอน หากินยังไง ก็ตัดสินใจขึ้นมาอยู่ชั้นสองของบ้านดีกว่า”
.
“ก่อนหน้านี้ อยู่ๆ วันนึงยายเริ่มปากเบี้ยว ก็นึกว่ามีตัวอะไรมาต่อย ก็ถามตาว่า ปากฉันเป็นอะไรมันชาๆ เบี้ยวๆ ดีที่ไปส่งโรงพยาบาลทัน เลยรู้ว่าเป็นเส้นเลือดตีบ ก็รักษาจนดีขึ้นแต่ก็กลายเป็นคนไม่มีแรง ขาเดินไม่ไหว”
.
“ปกติ ลูกจะเอาข้าวเอาน้ำมาส่ง ลูกสาวแต่งงานอยู่อีกหมู่บ้านนึง ก่อนน้ำท่วมก็เป็นแบบนั้น ยายไม่ได้ทำอะไรแล้ว กวาดบ้านตาก็เป็นคนกวาด เพราะยายไม่มีแรง พอน้ำท่วมจะย้ายไปอยู่บ้านลูกสาวก็ไม่ได้ บ้านลูกน้ำท่วมสูงกว่าบ้านยายอีก”
.
“กลัวว่าน้ำจะท่วมขึ้นมาถึงชั้นสอง นอนไม่หลับ นอนได้ 2 ชั่วโมงก็สะดุ้ง ลุกมาดูน้ำทุกวัน ตอนนี้ก็ยังนอนไม่หลับ มันผวาตลอด กลัวน้ำก็กลัว กลัวคนก็กลัว กลัวคนมาลักของ มันมีคนมาขโมยของตามบ้าน”
.
“เสียใจที่บ้านน้ำท่วม เสียใจจนไม่รู้จะเสียใจยังไงแล้ว เลี้ยงปลาไว้ในสระ ปลาก็หายไปหมด ไม่ได้เข้าไปดูเลย ต้องปล่อยทิ้งไว้ ข้าวในนากำลังออกรวง ก็จมหมด 8 ไร่ ไม่เหลือเลย”
.
“พอน้ำลด บ้านคงต้องซ่อมอีกหลายอย่าง ตู้เตียงไปหมด ล้างบ้านเองคงไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่มีใครมาช่วย ก็ต้องจ้างเขา ใช้เงินผู้สูงอายุนี่แหละ เงินตากับยายคนละ 700 บาท จะเอาไปจ้างเขามาช่วย ตายายทำเองคงไม่ไหวดอก จะยกมือไหว้สุดศอกเลยถ้ามีคนมาช่วยยายนะลูก”
—————————————————
ยายประมูล อ่างคำหงษ์ อายุ 78 ปี
ผู้ประสบอุทกภัย บ้านหนองกินเพล
อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
—————————————————-
สุดสัปดาห์นี้ กระจกเงาจะล้างบ้านยายประมูล
รวมถึงบ้านผู้ประสบภัยกลุ่มเปราะบางรายอื่นๆ
ในวันที่ 5-6 พ.ย.2565
สนใจลงแรงช่วยยาย ได้ที่
.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์อาสาสมัครมูลนิธิกระจกเงา
วารินชำราบ อุบลราชธานี
คุณเบญ โทร 065-487-1286
.
หรือสนับสนุนภารกิจอาสาล้างบ้านและซ่อมบ้าน
ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ
ได้ที่บัญชี กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์
Share Button

ฟื้นฟูห้องให้ปลอดเชื้อ ล้างบ้านให้ปลอดโคลน กู้สุขภาพคุณยายวัย 73


ทันทีที่ได้รู้ข่าว
ว่าจะมีอาสาสมัครหลายคนมาช่วยล้างบ้านให้
ยายเป เอ่ยปากบอกลูกสาวให้พาออกจากศูนย์พักพิง
เพื่อมารอต้อนรับพวกเราแต่เช้า
.
ยายเป เป็นแม่ใหญ่วัย 73 ปีแห่งบ้านหนองกินเพล
แม่ใหญ่ป่วยออดๆ แอดๆ ด้วยโรคไตเรื้อรัง
และอื่นๆ มานานแล้ว
.
ลูกหลานของยายเป็นชาวไร่ชาวนา
ไร่นาที่น้ำท่วมมิดเช่นเดียวกับบ้าน
ทางการแจ้งว่ากว่าจะได้กลับไปทำนาอีกครั้ง
ก็คงกลางธันวา หรือไม่ก็สิ้นปีโน่นเลย
.
พวกเราตั้งใจเร่งมาล้างบ้านให้ยายทันทีที่น้ำลด
เพราะตั้งแต่ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง
ข่าวว่า อาการป่วยก็ทรงๆ ทรุดๆ เรื่อยมา
.
โรคไตเรื้อรัง ทำให้ยายต้องมีห้องปลอดเชื้อ
ห้องปลอดเชื้อในวันที่เราเข้าไปล้าง
เต็มไปด้วยกล่องยาที่หนีน้ำไม่ทัน
.
ลูกสาวยายบอกว่า ทั้งที่เตรียมยกหนีน้ำไว้แล้ว
แต่น้ำมามากเกินกว่าที่คิดไว้
ยา 40 กว่าลังสำหรับดูแลยาย 3 เดือน
จึงเสียหายทั้งหมด
.
วันเสาร์ที่ผ่านมา
เราล้างบ้าน และห้องปลอดเชื้อของยาย
ให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง
.
และเป็นวันเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ รพ.สต.
น้ำยาล็อตใหม่ มาให้ยายเช่นกัน
———————————————
สนับสนุนภารกิจอาสาล้างบ้านและซ่อมบ้าน
ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ
ได้ที่บัญชี กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์
Share Button

ขนความช่วยเหลือสู่ผู้ประสบภัย จ.อุบล

ภาพภายในบ้านผู้ประสบอุทกภัย
ที่จะอธิบายคำว่า “สิ้นเนื้อประดาตัว”
.
น้ำกวาดทรัพย์สินทุกอย่างไปหมด
ทรัพย์สินที่เรานึกถึงอาจหมายถึงเงินทอง
.
แต่สำหรับชาวบ้านรายได้น้อย
“ทรัพย์สิน” หมายรวมถึง
.
ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้า บานกระจก
หม้อข้าว เตาแก๊ส ที่นอน หมอนมุ้ง ฯลฯ
.
บางบ้าน “ชักโครก” ยังต้องเก็บตังค์ซื้อ
เพื่อผู้เฒ่าผู้แก่ภายในบ้าน
.
วันนี้ทุกอย่างน้ำพัดเสียหายไปหมด
เก็บตังค์อีกเท่าไหร่
กว่าจะได้กลับมาดังเดิม
.
การนำทรัพยากรของผู้มีเหลือใช้
เข้าไปแบ่งปันในช่วงเวลาแห่งการสูญเสียนี้
จะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
ปลดเปลื้องความทุกข์อย่างเป็นรูปธรรม
.
นี่คือภารกิจฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำลด
ของโครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง
.
สัปดาห์นี้เราเหมารถสิบล้อ 2 รอบ
เพื่อนำข้าวสารอาหารแห้ง เสื้อผ้า เสื้อกันหนาว
หมอน ผ้าห่ม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
ที่ได้จากการบริจาค ขนขึ้นจนเต็มคันรถ
มีปลายทางเพื่อดูแล พี่น้องชาววารินชำราบ
จังหวัดอุบลราชธานี
———————————————
บริจาคสิ่งของเหลือใช้สภาพดีได้ที่
มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191
ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขต หลักสี่ กทม. 10210
โทร.061-909-1840, 063-931-6340
Share Button

น้ำลดลงแต่ภาระยังคงหนัก: วิกฤติหมดตัวของผู้ประสบภัย

ก่อนหน้านี้ สิ่งของในภาพ
เคยเป็นทรัพย์สิน ใช้สอย
ของใครบางคน
.
น้ำพัดทำลายทุกอย่าง
ให้กลายเป็นเพียงขยะกองนึง
.
และเหตุการณ์น้ำท่วม
ที่ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นขยะ
ก็ดูเหมือนจะเลือนลางลงไป
ความชินชา ทำให้ความช่วยเหลือขาดหาย
ยิ่งน้ำลด ความช่วยเหลือยิ่งเจือจาง
.
แท้ที่จริงแล้ว ช่วงหลังน้ำลดนี่แหละ
ที่ชาวบ้านต้องเผชิญ
กับสถานการณ์หมดตัวอย่างแท้จริง
.
บางคนหมดตัว บางคนตกงาน
ยังหางานใหม่ทำไม่ได้
.
กระจกเงาชวนบริจาคอุปกรณ์ล้างบ้าน
หรืออุปกรณ์ชองใช้ภายในบ้านที่จำเป็น
เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย ให้กับผู้ประสบภัย
.
บริจาคได้ทื่ศูนย์อาสาสมัคร มูลนิธิกระจกเงา
โรงสีข้าวอุบลสิน 27 หมู่ 8 ถนนกันทรลักษ์
ตำบลแสนสุข อำเภอวารินชำราบ
จังหวัดอุบลราชธานี 34190
โทร 081-093-4053
Share Button

ชีวิตของแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่ออนาคตและบ้านจมหายไปในน้ำ

“พี่มีแต่ลูกผู้หญิง ไม่กล้าให้ไปนอนที่ศูนย์พักพิง เลยต้องไปขออาศัยบ้านญาติ ก่อนออกจากบ้าน ก็ช่วยกันขนของ เขาบอกว่าน้ำน่าจะท่วมไม่ถึงชั้นสอง เราก็ไม่ได้เอาอะไรออกมามาก เอาเท่าที่จำเป็น พวกเสื้อผ้าชุดนักเรียนลูก กับรถมอเตอร์ไซค์ ของชิ้นใหญ่ ตู้เย็น ก็ต้องจ้างคนมาช่วยขนขึ้นชั้นสอง”
.
“พี่เป็นคนอำเภอวารินฯ เกิดที่นี่ โตมากับน้ำมูล พ่อแม่ทำอาชีพประมง มีพี่น้อง 7 คน ครอบครัวเราลำบาก ไม่มีเงินส่งเรียนหรอก พี่ได้เรียนถึง ป.6 ก็เริ่มไปทำงานตามโรงงาน ทำงานรับจ้าง จนกระทั่งแต่งงาน สามีเป็นลูกจ้างเทศบาล พี่ก็ออกจากงานเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก มีเวลาว่างก็รับจ้างเล็กๆ น้อยๆ รับจ้างซักผ้าบ้าง เป็นรายได้เสริม เพราะเงินเดือนสามีอย่างเดียว ไม่พอค่าใช้จ่าย”
.
“จนเมื่อ 8 เดือนก่อน สามีพี่เสียชีวิต เขาเส้นเลือดในสมองแตก ชีวิตครอบครัวเปลี่ยนเลย ลูกคนเล็กยังเรียนมัธยม อีกคนเรียนอาชีวะ เป็นลูกสาวทั้งคู่ เราไม่มีผู้นำครอบครัวแล้ว ก็ต้องเริ่มทำงาน หางาน จนได้งานเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ได้ค่าจ้างวันละ 350 บาท”
.
“พี่ไปทำงานทุกวัน ขี่รถเครื่องข้ามแม่น้ำจากฝั่งอำเภอวารินฯ ไปทำงานในเมืองอุบลฯ เดือนนึงหยุดแค่ 4 วัน ก็มีรายได้ 8,000- 9,000 บาท ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน ให้ลูกไปเรียน ตั้งแต่สามีเสียไป ก็ทำงานหาเงินมาตลอด จนน้ำท่วม”
.
“พอน้ำท่วม พี่ก็ไปทำงานไม่ได้ เพราะน้ำท่วมสูงมาก จะอ้อมไป ก็ไกลมาก เข้างานไม่ทัน ห่วงของห่วงลูกด้วย ก็ต้องรอน้ำลด บอกเถ้าแก่ว่าเดินทางไม่ได้ ขอลาหยุดก่อน ตั้งแต่ตอนนั้นก็เป็นเดือนแล้วที่ไม่ได้ไปทำงาน ป่านนี้เขาคงจ้างคนอื่นไปแล้ว”
.
“ตอนน้ำท่วมปี 2562 ข้าวของในบ้านก็ไปกับน้ำหมด เอาอะไรออกมาไม่ได้เหมือนกัน แต่ปีนั้นพี่ยังมีหัวหน้าครอบครัว ยังมีสามี เราก็ยังมีแรงทำ บ้านพัง ของเสีย เขาก็ซ่อมใหม่ได้ แต่ปีนี้ไม่เหมือนเดิม ไม่มีสามีแล้ว ปีนี้น้ำขึ้นถึงชั้นสอง ของที่ขนเก็บจมน้ำหมด ตู้เย็น เตียงลอยตามน้ำ ของทุกอย่างไปหมดเลย (ร้องไห้) เหมือนมันไม่เหลืออะไรแล้ว เหลือแต่หลังคา ที่พ้นน้ำ”
.
“ตอนนี้พี่ยังมองไม่เห็นอนาคตเลย ยังไม่รู้จะทำยังไงกับมัน (เงียบ) ลูกก็ต้องไปเรียน บ้านก็ต้องทำอีกเยอะ ทุกอย่างมันต้องใช้เงินทั้งนั้น ลูกสาว เขาปลอบใจว่า แม่ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ปีก่อนๆ น้ำก็ท่วม เรายังผ่านมาได้ ตอนนี้ไม่มีรายได้ ก็ยืมเงินญาติให้ลูกได้ไปเรียน ของแจกที่ได้ ก็เอาไปกินกันก่อน เดี๋ยวพอน้ำลด เดินทางได้เหมือนเดิม พี่จะลองไปคุยกับเถ้าแก่เขาดู เผื่อเขาจะรับพี่กลับไปทำงานเหมือนเดิม”
—————————————————-
จินตนา ควรเมืองกล้า อายุ 53 ปี
ผู้ประสบอุทกภัย ชุมชนท่ากอไผ่
อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
—————————————————-
บทสัมภาษณ์นี้ ทีมงานกระจกเงา คุยกับพี่จินตนา ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว กระทั่งถึงตอนนี้ ที่บ้านท่ากอไผ่ บ้านของเธอ ยังมีน้ำท่วมขัง เพราะอยู่ติดริมน้ำมูล ทีมงานประเมินว่าอีกเกือบสิบวัน น้ำจึงจะลด ถึงวันนั้น เราจะจัดกองกำลังอาสาเข้าหมู่บ้าน ไปช่วยครอบครัวของเธอ รวมถึงชาวบ้านรายอื่นๆ ด้วย
Share Button

รอยเปื้อนบนตัวพวกเขา ได้มาจากการล้างบ้านที่อุบล

ใจเกิน 100 อย่างแน่นอน​
อายุเกิน 1000 อย่างไม่ต้องสงสัย
.
ทีมจ้างวานข้า​ IN​ อุบล​ราชธานี
ภารกิจล้างซ่อมแซม​บ้านผู้ประสบ​ภัยน้ำท่วม
.
บ้านนั้นสะอาด​แล้ว​
ความเลอะเปรอะเปื้อน​
มาอยู่ที่พวกเขาแทน
.
เขาบอกว่าตัวพวกเขาล้างได้ง่าย
แต่บ้านชาวบ้านต้องช่วยกัน

———————–

สนับสนุน​จ้างวานข้า​ IN อุบลราชธานี​ได้ที่​
.
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-2-58289-4 SCB
.
กองทุนภัยพิบัติมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-258298-3 SCB

Share Button