บนกระดาษที่บันทึกความรู้สึกของอดีตคนไร้บ้าน

“ความรู้สึกของลุงเมื่อเข้าห้องเช่าวันแรกเป็นยังไงบ้าง”
.
มันคือคำถามของเราที่มีต่อสมาชิกจ้างวานข้าคนนึง ที่เคยเป็นคนไร้บ้านและปัจจุบันมีห้องเช่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นเหมือนของขวัญก่อนปีใหม่ของแกชิ้นหนึ่งของชีวิต
.
คำตอบของแกอยู่ในกระดาษชิ้นหนึ่งที่แกใช้มันบันทึกความรู้สึก คำขอบคุณ และข้าวของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
.
บางท่อนของบันทึกนั้น…
.
“ข้าพเจ้าได้ย้ายเข้ามาอยู่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลา 17.59 น. ผมรู้สึกดีใจที่ได้มีห้องอยู่ ไม่ต้องนอนข้างถนนเหมือนดังแต่ก่อน เพราะรู้สึกปลอดภัยที่ไม่ต้องถูกไล่ตอนตี 4”

————————————————
สนับสนุน​จ้างวาน​ข้าได้ที่​
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-2-58289-4 SCB

Share Button

ความหวังของชายไร้บ้าน หลังอาศัยข้างถนนมา 3 ปี

.
“นิทานการไร้บ้าน”
.
กาลครั้งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งที่เกิดอยู่ในครอบครัวที่ปากกัดตีนถีบกันทั้งครอบครัว รายได้ที่ได้มาของแต่ละคนมันแค่พอที่จะเลี้ยงปากท้องได้แต่เพียงตนเอง ไม่มีเงินเหลือพอให้เก็บ ไม่มีเครดิตให้พอไปกู้ยืมได้ การศึกษาทั้งหมดอยู่ในระดับต่ำ แม้บางคนอาจจะจบที่มัธยม 3 ก็ตามที
.
ทำงานไปทำงานมา ทุกคนยังอยู่ในบ้านหลังเดิม อายุของทุกคนล่วงมาในวัยกว่า 50 ปีแล้วเห็นจะได้ มีใครคนหนึ่งในบ้านเกิดตกงานที่ตัวเองเคยทำมา เขาพยายามหางานใหม่แต่ก็หาไม่ได้ หาไม่ได้ด้วยเหตุผลว่าเขานั้นชราจนเกินไป เกินไปที่นายจ้างจะทนจ้างความเชื่องช้าไม่ทันการนั้นได้
.
เขาอยู่ในสภาพตกงาน จาก 1 ปี เป็น 2 ปี และเป็น 3 ปี เขาเริ่มถูกมองว่าเป็นภาระเป็นตัวถ่วงของบ้านก็ตั้งแต่ขวบปีแรกที่ต้องตกงาน ความอดทนมีอยู่อย่างจำกัด คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากใครๆ ก็รู้ วันหนึ่งเขาเก็บเสื้อผ้าเท่าที่พอมีอยู่ใส่กระเป๋าเป้ใบหนึ่ง ตายเอาดาบหน้าเขาบ่นบอกกับตัวเอง
.
เขานั่งรถเมล์ ตั้งเป้าหมายในใจว่า คืนนี้นอนข้างถนนราชดำเนินก่อนก็แล้วกัน เช้าก็ค่อยตื่นไปหางานทำดู ผลปรากฏว่าอาทิตย์นั้นทั้งอาทิตย์เขาหางานไม่ได้เลย เขาไปได้งานในอาทิตย์ที่ 2 มีคนจ้างเขาทำงาน 1 วัน เขาอยู่ในสภาพของคนนอนข้างถนนตกงาน จาก 1 ปี เป็น 2 ปี และล่วงมาเป็น 3 ปี
.
3 ปีที่อยู่ที่ข้างถนน เขาหางานทำได้ตลอดแต่มันเป็นงานไม่ต่อเนื่อง รายได้ต่ำ เขานึกถึงคำของตัวเองที่ปลุกปลอบใจในวันที่เขาตัดสินใจออกจากบ้าน “คืนนี้นอนข้างถนนราชดำเนินก่อนก็แล้วกัน เช้าก็ค่อยตื่นไปหางานทำดู” 3 ปีเข้าให้แล้วที่เขาต้องนอนที่นี่ที่ข้างถนนราชดำเนินมาร่วม 3 ปีแล้ว
.
ในคืนวันนั้น คืนวันที่เขาจะหลับใหลไปพร้อมกับคราบน้ำตาตัวเอง เพื่อนคนไร้บ้านที่เขาเคยรู้จัก เดินเข้ามาคุยกับกลุ่มคนไร้บ้านกลุ่มหนึ่งที่อยู่ข้างๆพื้นที่นอนของเขา เขาเล่าว่าตอนนี้เขามีห้องเช่าแล้วนะ และเขามีงานทำ 5 วันต่อสัปดาห์ เขาบอกว่าเขาไปทำงานกับ จ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงาอยู่
.
หลายคนไถ่ถามว่าจะไปสมัครได้ที่ไหน อดีตคนไร้บ้านคนนั้นตอบมาว่า เขาเปิดรับสมัครงานที่ใต้สะพานปิ่นเกล้านะ ทุกวันอังคารและศุกร์ที่เขามาเปิดให้บริการรถซักอบอาบนั่นแหละ หลายคนบอกกันว่า ดีเลยพรุ่งนี้ก็วันอังคารนี่หว่า เขาคนนั้นที่นั่งตั้งใจฟังอยู่เงียบๆ บอกตัวเองในใจอีกครั้งว่า “พรุ่งนี้จะไปสมัครงานนี้ให้ได้” เขาล้มตัวนอนที่ไม่ใช่พร้อมคราบน้ำตา แต่พร้อมด้วยความหวังในหัวใจที่มันชัดเจนขึ้นอีกครั้ง
——————————————
สนับสนุน​จ้างวาน​ข้าได้ที่​
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-2-58289-4 SCB
Share Button

งานใหม่ในวันตรุษจีนของชายวัย 70

.
เมื่อวานเป็นวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีน ทางทีมงานจ้างวานข้าไปทำการสัมภาษณ์และเยี่ยมห้องพักของชายชราวัย 70 ปี เมื่อไปถึงห้องพักพบหน้าชายชราวัย 70 คนนั้น ชายชราที่หน้าตาบ่งบอกว่าเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เมื่อแกเริ่มบทสนทนาก็ยิ่งชัดเจน
.
แกเริ่มเล่าจากชีวิตปัจจุบัน “ตอนนี้ผมก็ใช้เงินเก็บที่สะสมมาทั้งชีวิต เป็นเงินจ่ายค่าห้องเช่า เป็นเงินกิน แต่มันเริ่มจะหมดแล้ว งานสุดท้ายที่ทำก็งาน รปภ.แบบตัวสำรอง คือถ้าเขาขาดคนเขาก็จะมาเรียก แต่เขาก็ไม่เรียกมานานเป็นปีแล้ว พอดีดูในยูทูปเห็นโครงการจ้างวานข้าก็เลยสมัครเพื่อได้พอมีรายได้อีก”
.
แกเริ่มเล่าย้อนไปในวัยเด็ก บ้านแกอยู่แถวตลาดน้อย แกนับเป็นจีนจนครอบครัวหนึ่งที่นั่น ทุกคนปากกัดและตีนถีบตั้งแต่เด็กจนโต ทำงานรับจ้างมาทุกอย่าง ทุกอย่างที่พอเลี้ยงปากท้องได้ มีวันหนึ่งบ้านที่เคยเช่าอยู่ ก็ถูกนายทุนใหญ่กว้านซื้อ คนกว่า 100 หลังคาต้องแยกย้าย ทิ้งความหลังทิ้งต้นทุนชีวิตไว้ที่นั่น
.
แกจึงมาเริ่มใหม่อีกครั้ง แกเริ่มทำงาน เริ่มเก็บเงิน พยายามทำงานหาเงินทุกช่องทางที่พอทำได้ มีเงินเก็บก็ลงทุน ชีวิตพอไปได้ แต่มาล้มอีกครั้งเมื่อทำเลเดิมที่แกเคยค้าขายพอเลี้ยงชีพชอบได้ ถูกขายเปลี่ยนเจ้าของ
.
แล้วแกจึงต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทำไปทำมาสักพักใหญ่ของชีวิต การค้าขายนั้นก็ล้มลงอีก ไม่ใช่เพราะแกค้าขายไม่เป็น แต่เพราะวันหนึ่งนายทุนตลาดค้าขายแหล่งใหญ่ถูกจับ การค้าการขายของแกจึงต้องล้มลงตาม มันล้มลงในวันที่แกอายุได้ 67 ปีแล้ว
.
ชายชราวัย 67 ปี จึงบ่ายหน้าไปหางานใหม่ งาน รปภ. แกทำงานนั้นได้ 3 ปี อายุแกเหยียบ 70 ปีแล้ว ทางบริษัทรปภ.จึงเลิกจ้างแก แต่ยังมีเรียกใช้แกบ้าง เมื่อรปภ.ของบริษัทไม่พอ แต่ก็เหมือนที่แกเล่าไว้ตั้งแต่แรก เป็นปีกว่าๆแล้วที่แกไม่ได้ทำงาน และใช้เงินเก็บก้อนสุดท้าย เป็นค่าเช่าห้อง ค่ากิน และมันกำลังจะหมดไปในไม่ช้า
.
เราไม่ได้ถามแกว่าวันนี้ วันไหว้ในเทศกาลตรุษจีนแกได้ไหว้เหมือนคนเชื้อสายจีนคนอื่นๆ หรือไม่ และเราก็ยังไม่ได้บอกแกอีกเช่นกันว่า หลังตรุษจีนแกจะได้เข้ามาทำงานกับโครงการจ้างวานข้า แต่เราจะโทรบอกแกในวันจันทร์นี้ เราหวังว่าแกคงจะดีใจไปกับงานใหม่และรายได้ที่แกจะได้มี
.
“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ในวันที่เราบอกกับแกว่า “ลุงมาเริ่มทำงานได้เลยนะ” ประโยคนี้น่าจะเหมาะกับชายชราเชื้อสายจีนคนนี้ได้เป็นอย่างดี และมันก็เหมาะในวันที่สังคมไทยยังไม่มีสวัสดิการบำนาญให้กับชีวิตชราทั้งแกและอีกหลายๆ คนในสังคมนี้
____________________
สนับสนุน​จ้างวาน​ข้าได้ที่​
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-2-58289-4 SCB
Share Button