พี่โจ้ ณัฐพล สิงห์เถื่อน หัวหน้าโครงการอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

“เราเห็นชาวบ้าน วิ่งขึ้นไปดับไฟป่ากัน เป็นกลไกแรกเลยนะ แล้วเราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เราจะนิ่งเฉยไม่ทำสิ่งนี้ไม่ได้แล้ว จังหวัดเชียงรายมีไฟป่าทุกปีนะ ไฟป่ามันคือที่มาของ PM2.5 อากาศที่เป็นมลพิษไง ที่ตั้งของสำนักงานมูลนิธิกระจกเงาเชียงราย บางวันค่า PM2.5 มันเกินมาตราฐาน จนมองเห็นด้วยตาเปล่าเลยว่า ท้องฟ้ามันเหลืองไปหมดเลย หายใจกันไม่ออกแล้ว จนวันนีง ไฟป่ามันโอบล้อมที่ตั้งมูลนิธิ เสียงไฟที่มันกำลังไหม้ต้นไม้ ไหม้กอไผ่ มันเสียงดังมากจนน่ากลัว เรามองเห็นปัญหาแล้ว มันอยู่ตรงหน้าเราแล้ว

“เราก็เริ่มระดมอาสาสมัครทั้งในพื้นที่ ในชุมชน และคนจากข้างนอก จัดหาเครื่องไม้เครื่องมือ จัดตั้งทีมชุดปฏิบัติการดับไฟป่า เพื่อสนับสนุนการดับไฟป่า ปกติชาวบ้านเวลาจะดับไฟป่า เขาใช้การลาดตระเวนเดินเท้าขึ้นที่สูง เพื่อดูกลุ่มไฟ เราก็มาใช้โดรนช่วยระบุพิกัดที่ชัดเจน แม่นยำ แล้วมุ่งตรงไปดับไฟป่าได้ทันที นอกจากนี้ยังนำกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์วิบาก มาขนส่งอาหาร เสบียงและอุปกรณ์จำเป็น ลดภาระการให้แรงกายในการขนของ จะได้เอาแรงที่มีไปใช้ในการดับไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เราเหมือนกำลังทำสงครามกับไฟป่านะ ต้องประเมินสถานการณ์โดยตลอด ต้องวางแผน เข้าตีตรงไหน จะรบตรงไหน ช่วงไหนข้าศึก คือ กลุ่มไฟกำลังอ่อนแรง นี่เราต้องรีบเข้าตีเลยเข้ารบเลย ตอนไหนไฟแรงมาก ข้าศึกกำลังคึก เราก็ต้องมีแผนรับมืออีกแบบ ยังรบไม่ได้ แล้วใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่อสู้ทุกรูปแบบนะ โดรนนอกจากจะใช้บินระบุตำแหน่งไฟแล้ว ยังบินคุ้มกันทีมงานที่กำลังดับไฟ ให้เขารู้ว่า จุดไหนไฟกำลังโหมหรือควันเยอะ ตอนนี้เราขนปั้มน้ำขนาดเล็กไปด้วย เจอห้วยเจอลำธารที่ไหน เราปั้มน้ำลากสายยางไปฉีดเลย

“ข่าวเรื่องคนเสียชีวิตจากการไปดับไฟป่า ทำให้เราต้องตระหนักและระมัดระวังทีมงานอยู่ตลอด ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทุกท่าน การดับไฟในป่าเป็นเรื่องที่มีความอันตรายอยู่ทุกวินาที เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราต้องวางแผนให้รัดกุม คำนึงว่าไฟทุกที่มีอันตรายหมด ต้องสู้ต้องรบในพื้นที่ที่เราถอยได้ ในทีมต้องดูแลกันและกัน ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ไม่อยากเห็นความสูญเสียจากความเสียสละนี้
.
“แต่ถึงที่สุดเรายังไม่ใช่ตัวจริงนะ เราคืออาสาสมัคร จริงๆมีเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าอยู่ แต่เทียบปริมาณงานกับจำนวนคน งบประมาณ ระบบระเบียบของราชการ มันไม่สอดคล้องกัน มันมีข้อจำกัดที่ต้องช่วยสนับสนุน ในขณะที่ชาวบ้านก็คือคนแรกเลยที่วิ่งออกไปดับไฟ เพราะมันอยู่ใกล้ชุมชนเขา แต่เขาทำได้แค่หักกิ่งไม้มาตีมารบกับไฟอยู่เลย เลยต้องสนับสนุนเขา ทั้งงบประมาณ อาหาร เครื่องมือ เทคโนโลยี ให้เขาไปรบกับไฟได้ มันเป็นงานที่ต้องได้รับการสนับสนุน

“นี่เดือนกว่าๆแล้วที่รบกับไฟป่าแทบไม่มีวันพัก แต่ดับไฟได้แล้ว มันเหมือนได้ชัยชนะ แต่ความจริงการรบไม่ใช่แค่แพ้ชนะไง แต่ค่ามลพิษ PM2.5 มันจะลดลง คุณภาพอากาศโดยรวมมันจะดีขึ้น เพราะเราอยู่ที่นี่ไง เราได้รับผลกระทบต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายโดยตรง เพราะนี่คือบ้านของเรา”

พี่โจ้ ณัฐพล สิงห์เถื่อน
หัวหน้าโครงการอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

________________________________________

คุณสามารถร่วมสนับสนุนภารกิจอาสาดับไฟป่า
โดยบริจาคเป็นค่าอาหาร เครื่องดื่มชูกำลัง อุปกรณ์ดับไฟ
ได้ที่ชื่อบัญชีกองทุนภัยพิบัติ (Special Force)
เลขที่บัญชี 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์
ต้องการข้อมูลเพิ่มโทร. 094-878-6447

#อาสาดับไฟป่า #มูลนิธิกระจกเงาเชียงราย

Share Button

พี่เอก เอกชัย พรพรรณประภา อายุ 58 ปี อาสาสมัครดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

“ผมตัดสินใจลาออกจากชีวิตราชการ มาเป็นข้าราชการบำนาญ ด้วยความที่เราเป็นเด็กทำกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอรับราชการก็ทำงานภาคสนามมาตลอด แต่ชีวิตมันต้องการทั้งความสนุกและความสุข เลยตัดสินใจลาออกมา หาความสนุก ความสุข และหาคุณค่าในชีวิตไปพร้อมกัน

“สามปีที่ลาออกจากราชการมา ผมเริ่มไปเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิแห่งหนึ่ง มีหน้าที่รับให้คำปรึกษาผู้ป่วย HIV และการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทางโทรศัพท์ จากนั้นได้มาเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิกระจกเงา ในโครงการอาสาสร้างบ้าน ไปช่วยซ่อมบ้านอยู่ 2 หลัง ให้กับผู้ป่วยติดเตียง และครอบครัวที่จนยาก คือสภาพบ้านที่เป็นเห็นตอนนั้นมันไม่เหมาะที่มุนษย์จะไปอยู่ได้ ก็ไปช่วยซ่อมสร้าง ตอกตะปู แบกหินปูนทราย ทำจนเขาเข้าไปอยู่ในบ้านได้อย่างปลอดภัย ได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าของบ้านที่เราไปซ่อมบ้านให้ มันมีความสุข ผมยังจำรอยยิ้มทั้งน้ำตาบนใบหน้าเจ้าของบ้านได้จนถึงทุกวันนี้

“จากนั้นเห็นประกาศรับสมัครอาสาดับไฟป่า ที่เชียงราย ก็เลยตัดสินใจมาร่วมด้วย พอมาถึงวันแรกเห็นคนกุลีกุจอ เตรียมลงพื้นที่ออกไปดับไฟป่า ด้วยความที่เราอาวุโสกว่าเขาเพื่อน น้องๆก็เรียกเราว่าลุงเอก ที่นี่ผมทำหน้าที่อาสาสมัครหลายหน้างาน ทั้งขี้นไปทำแนวกันไฟก่อนไฟจะมา ถ้าตรงไหนมีไฟก็ขึ้นไปช่วยดับไฟเพื่อไม่ให้เกิดควัน และได้รับมอบหมายจากทีมไปให้ร่วมประชุมวางแผนดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานอื่นๆด้วย

“งานดับไฟป่า เป็นงานที่เหนื่อยและหนักมากนะ แถมเสี่ยงอันตรายด้วย กดดันจากไฟและควันที่อยู่ตรงหน้าเรา ยิ่งได้ข่าวว่ามีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดับไฟป่า ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร โดยเฉพาะทีมพวกเรา ที่ได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายวัน ต้องช่วยดูแลกัน ผมเป็นคนแก่เนอะ ก็จะเคร่งครัดกับน้องๆที่เป็นวัยรุ่น เป็นห่วงเขา การไปดับไฟป่า ต้องระมัดระวังตัวเองสูง ผมเคยพลาดสะดุดตอไม้ตอนไต่ลงเขา ซึ่งข้างๆเป็นกลุ่มไฟและเหว จนได้รับบาดเจ็บ โชคดีน้องๆที่ไปด้วยกันคว้าแขนช่วยไว้ได้ทัน

“ผมมาเป็นอาสาสมัครดับไฟป่าตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 ทำงานกันหนัก เกือบทุกวันแทบไม่ได้หยุดพักเลย ลุยกันทุกวัน แต่ได้เห็นความสำเร็จ เราทำแนวกันไฟจนหยุดไฟไม่ให้ข้ามมาไหม้ป่าที่เหลือได้ ในขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ เราเรียนรู้มัน เรารู้จักมัน จนคุมมันไว้ได้ ซึ่งไฟป่านี่แหละคือต้นกำเนิดของควัน ของมลพิษที่เราหายใจกันเข้าไปแล้วเราหยุดไฟได้มันคือความภูมิใจ

“ผมอยากจะบอกในฐานะความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เราอยู่ร่วมกันในสังคม ถ้าเราลองได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น มองเห็นคนอื่น มองไกลๆไปจากตัวของเราเอง เราจะเริ่มนับถือตัวเองได้ สิ่งเหล่านี้จะหล่อเลี้ยงชีวิตจิตใจ เชื่อว่าทุกคนอยากทำสิ่งที่ดี และถ้าเราได้ทำสิ่งที่ดีนั้นเพื่อคนอื่นด้วย นั่นแหละคือความสุข”

พี่เอก เอกชัย พรพรรณประภา อายุ 58 ปี
อาสาสมัครดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

#อาสาดับไฟป่า #มูลนิธิกระจกเงาเชียงราย

Share Button