“เธอ” ผู้แบกรับชีวิตสามีที่ป่วยติดเตียง

ในวันที่ลุงจ้อยล้มป่วย เชื้อร้ายลุกลามกัดกินร่างกาย ปอดของเขาทำงานได้ไม่เต็มที่ต้องมีเครื่องให้ออกซิเจนตลอดเวลา ขาสองข้างอ่อนแรงเดินไม่ได้ จนกลายเป็นชายอัมพฤกษ์ติดเตียง
.
ลุงจ้อยมีภรรยาเป็นกำลังหลักคอยดูแล อัมพฤกษ์ที่เขาเผชิญลุกลามกัดกินชีวิตของทั้งคู่ ก่อนนี้ลุงจ้อยกับภรรยา เคยเป็นลูกจ้างประจำในโรงงานแห่งหนึ่ง แต่หลังลุงจ้อยล้มป่วยได้ไม่นาน เขาก็ไม่สามารถกลับไปทำงานได้อีก ส่วนตัวภรรยาเองยังต้องหยุดงาน เทียวไปเทียวมาโรงพยาบาลบ่อยขึ้น
.
เมื่อบ่อยขึ้นหลายครั้งเข้า นายจ้างจึงยื่นคำขาด ให้เธอเลือกระหว่างงานกับชีวิตผู้ป่วย เธอเลือกสละหน้าที่การงานไป อย่างกลืนไม่ได้คายไม่ออก เธออาจมีโอกาสช่วยดูแลลุงจ้อยที่บ้านได้ แต่สุดท้ายครอบครัวจะไม่เหลือรายรับจากไหนสักทาง
.
รายรับหดหาย รายจ่ายยังอยู่ ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำไฟ รวมถึงค่าเติมก๊าซในถังออกซิเจนให้คนป่วยยังเป็นส่วนที่ต้องจัดการ เธอหาทางรับผิดชอบรายจ่ายเหล่านั้น ด้วยการทำขนมขายบริเวณหมู่บ้าน ให้พอมีกำไรมาบ้างวันละร้อยสองร้อยก็ยังดี
.
เธอผันตัวจากชีวิตในโรงงานสู่การดูแลผู้ป่วย ความเจ็บป่วยของลุงจ้อย ทำให้เธอต้องตื่นเช้าแต่ตีสี่ ตื่นมาเช็ดล้างทำความสะอาดร่างกายสามี รวมถึงป้อนข้าวป้อนยาให้อาหารทางสายยาง จากนั้นเธอจะเข็นถังออกซิเจนออกจากบ้าน เดินเท้าไปเติมก๊าซที่ร้านประมาณ 3 กิโล
.
เธอทำหน้าที่ผู้ดูแลอย่างดี ทั้งที่ตัวเองไม่ได้แข็งแรงนัก บ่อยครั้งเธออดทน ให้ความยากจนกดต่อมความหิว แม้จะใช้พลังงานเยอะจากการเดินเท้าซ้ำไปซ้ำมา แต่เธอมีเวลากินข้าวน้อยมาก จนได้ร่างกายผอมบ้าง และขาสองข้างที่ปูดบวมเป็นผลข้างเคียง
.
เป็นผลข้างเคียงทางสุขภาพจากการพยายามสู้ดูแลผู้ป่วยอย่างหนัก สู้ทุกทาง จนหมดหน้าตัก เพื่อให้คนที่เธอรักมีชีวิตอยู่ต่อ
.
จนดือนที่แล้ว ภรรยาของลุงจ้อยส่งข้อความมายังเพจ อาสามาเยี่ยม มูลนิธิกระจกเงา เธอบอกเล่าความทุกข์ยากในใจ ที่ในชีวิตนี้ไม่มีใครให้เธอหันหน้าปรึกษา หวังจะได้รับทางออกว่า ในสภาวะที่ยังต้องแบกรับดูแลผู้ป่วยนั้นเธอต้องดำเนินมันยังไงต่อ
———————————————
โครงการอาสามาเยี่ยม จึงลงพื้นที่ไปหา
เรานำข้าวสาร อาหารแห้ง ผ้าอ้อมผู้ใหญ่
พร้อมนำเครื่องผลิตออกซิเจน
จากโครงการป่วยให้ยืมมาให้ลุงจ้อยได้ใช้
ช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าออกซิเจนลง
.
นอกจากนั้นเราพบว่า ภรรยาที่พยายามทำขนมขาย เธอยังขาดอุปกรณ์ทำมาหากินอยู่ไม่น้อย
.
โครงการอาสามาเยี่ยมจึงสนับสนุน เครื่องครัว กะทะ กระชอน รวมถึงวัตถุดิบแป้ง น้ำกะทิ น้ำตาลทราย เป็นเสมือนทุนเริ่มต้นอาชีพในการค้าขายให้เธอ
———————————————
นี่คือเรื่องเล่ากรณีตัวอย่าง
ที่สะท้อนข้อเท็จจริงว่า คนจนที่มีผู้พิการหรือผู้ป่วยติดเตียงในบ้าน ยังไม่สามารถดำรงชีวิตด้วยเงินสวัสดิการจากรัฐได้ หากครอบคลุมจริง ความเป็นอยู่ของทั้งคู่คงไม่ลำบากถึงเพียงนี้
.
นอกจากครอบครัวนี้ ยังมีครอบครัวผู้ป่วยยากไร้อีกหลายราย ที่อยู่ในความดูแลของโครงการอาสามาเยี่ยม และดูเหมือนจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องตามสภาพเศรษฐกิจ
.
คุณสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความช่วยเหลือ
บริจาคข้าวสารอาหารแห้ง ของใช้จำเป็น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ให้กับโครงการอาสามาเยี่ยม
ได้ที่มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 191 ซอยวิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210
โทร.061-909-1840, 063-931-6340
.
หรือสมทบทุนได้ที่ ชื่อบัญชี กองทุนอาสามาเยี่ยม
เลขที่บัญชี 202-258297-5 ธ.ไทยพาณิชย์
สอบถามข้อมูลเพิ่ม โทร.061-909-1840
Share Button