‘เสี่ยหมี’ ได้กลับชุมชนอีกครั้ง ร่างของเขาไม่ใช่ศพนิรนามอีกต่อไป

ใครๆ ก็เรียกเขาว่า “เสี่ยหมี”
สมัยหนุ่มๆ เขาขยันทำงาน
อาชีพสุดท้าย คือคนขับรถตุ๊กตุ๊ก
กระทั่งผิดหวังจากความรักในวัยห้าสิบ
ความเจ็บปวดนำพาเขาสู่การดื่มสุรา
และเริ่มถูกเรียกว่า “เสี่ยหมี”นับแต่นั้นมา
.
เขาเริ่มนอนในตลาด และที่สาธารณะ
แต่งตัวมอมแมมสวมแหวน สวมสร้อยรุงรัง
มีสภาพกลายเป็นเร่ร่อนที่มีบ้าน
เมื่อตื่นจากความเมา
จะรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ ที่ตลาด
.
ญาติพี่น้องซึ่งอยู่ในชุมชนเดียวกัน
พยายามดูแลเขาเท่าที่พอทำได้
เฉลี่ยเงินดูแลข้าวปลาอาหาร
แต่เขายังเลือกเดินออกจากบ้าน
ไปใช้ชีวิตกึ่งเร่ร่อนในตลาด
กระทั่งเมื่อ 6 ปีที่ก่อน เขาหายตัวไป
แล้ว “เสี่ยหมี”ไม่ได้กลับมาที่ชุมชนอีกเลย
.
เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
ติดต่อมาที่มูลนิธิกระจกเงา
แจ้งว่ามีศพนิรนาม ศพหนึ่ง คล้าย “เสี่ยหมี”
ถูกรถชนเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2559 ที่ปทุมธานี
ถูกนำส่งชันสูตร ในฐานะศพนิรนาม
แต่ตอนนั้นไม่มีข้อมูลว่าศพนั้นเป็นใคร
.
กระทั่งตอนนี้
มีกระบวนการนำลายนิ้วมือศพนิรนาม
ไปตรวจเทียบกับฐานข้อมูลกรมการปกครอง
จึงทำให้ทราบว่า ชายเร่ร่อนที่ถูกรถชนตาย
ที่กลายเป็นศพนิรนามไม่ทราบชื่อ
เขา คือ “หมี” ที่ญาติตามหามานานกว่า 6 ปี
.
วันนี้เขาจะได้กลับไปยังชุมชน
ที่ทุกคนขนานนามเขาว่า “เสี่ยหมี”
จากคนหายไม่ทราบสถานะ
จนเป็นศพนิรนาม ที่ทราบชื่อนามสกุลแล้ว
.
ขอแสดงความชื่นชม
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
ที่ใช้ความรู้ ความสามารถของหน่วยงาน
พิสูจน์จนทราบว่า ผู้ตายเป็นใคร
————————————————————
ด้วยครอบครัวเสี่ยหมี มีฐานะยากจน
มูลนิธิกระจกเงา จึงสนับสนุนเงิน
สำหรับเป็นค่ารถรับศพ ค่าเดินทางญาติพี่น้อง
ตลอดจนค่าจัดการงานศพจำนวน 10,000 บาท
————————————————————
สนับสนุนการพาคนหายกลับบ้าน
ตามหาข้อมูลศพนิรนาม
และช่วยงานศพครอบครัวคนหายที่ยากไร้
บัญชีโครงการศูนย์ข้อมูลคนหาย โดยมูลนิธิกระจกเงา
SCB 202-258-288-6
Share Button