จ้างวานข้าเปลี่ยนคนไร้บ้านให้มีที่อยู่ได้อีกราย

“คนมีบ้านลำดับที่ 52”
.
“ลุงไม่เคยเช่าห้องเลย ที่นอนที่อยู่ล่าสุดคือ บนรถทัวร์ เพราะเราทำงานตรงนี้ออกต่างจังหวัดก็นอนบนรถ อาบน้ำปั๊ม เรียกว่าใช้ชีวิตบนรถทัวร์นั่นล่ะ ลุงไม่เคยคิดจะเช่าห้องเพราะกินอยู่แบบนี้ได้สบาย ๆ แล้วเราจะเสียค่าห้องไปทำไม อีกอย่างมันมีงานวิ่งรถตลอดไม่เคยได้หยุด กินนอนบนรถเนี่ยล่ะสะดวกที่สุดแล้ว”
.
“ลุงออกมาไร้บ้านช่วงกลางปี 2563 เพราะโดนเลิกจ้าง ซ้ำแล้วตอนนั้นลุงก็มีปัญหากับทางบ้านจึงกลับบ้านไม่ได้ เครียดมาก ตอนนั้นลุงทำงานเป็นคนขับรถทัวร์ พอเจอโควิดหนัก ๆ บริษัทโดนผู้โดยสารแคนเซิลหมดเลย บริษัทขาดทุนหนักมากจะปรับตัวไปทางไหนก็ยากไปหมด เจ้านายก็เลยปิดกิจการและก็ตกงานตั้งแต่ตอนนั้น ช่วงนั้นเงินเก็บก็ไม่มีไปเช่าห้องอยู่เพราะเรานอนบนรถทัวร์มาโดยตลอด เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นแล้วมีเท่าไรก็ช่วยชาวบ้านเขาไปหมด พอหมดตัวก็เดินไปเรื่อยเปื่อยระเหเร่ร่อน ค่ำไหนนอนนั่น ยกมือไหว้ขอข้าวเขากินไปเรื่อย”
.
“โอ้โหตอนเร่ร่อนลำบากมาก มีบางช่วงที่คิดสั้นเพราะไม่รู้จะหาทางออกกับตัวเองยังไง แต่ที่แรกที่ไปคือหัวลำโพง ไปนั่งมองรถไฟ คือมันเจ็บปวดนะเพราะมันกลับบ้านไม่ได้ด้วยไงด้วยปัญหาหลายอย่าง มองดูรอบ ๆ ก็เห็นหลายคนมีสภาพไม่ต่างจากเรา นอนกอดกระเป๋า วิ่งไปเอาข้าว ก็เลยฮึดสู้ เอาเว้ยสู้ใหม่อีกสักครั้ง ลุงก็เลยหิ้วกระเป๋าเดินไปเรื่อย ๆ ไปถึงสวนลุม พอไปถึงก็ค่ำแล้วไงก็เลยตั้งใจจะนอนที่นี่ มาเจอยามเขาบอกว่าไม่ให้นอนนะแต่นั่งหลับได้”
.
“คืนแรกจำได้เลยว่าหลับไม่ลง ยุงก็ตอมก็กัดเต็มตัว เงินจะซื้อยากันยุงยังไม่มีเลย ความรู้สึกตอนนั้นคือ ชีวิตกูมันรันทดจังเลยวะ ทางไปข้างหน้าก็เลือนรางเหลือเกินจะอยู่รอดอีกกี่ปีกัน เช้ามาก็ขึ้นรถเมล์มาเรื่อยเปื่อยมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตอนนั้นก็แปลกใจเห็นคนจอดรถลงมาแจกข้าวและคนยืนต่อกันเป็นแถวเลย คนบนรถเมล์เขาบอกว่า เขาแจกกันประจำแจกฟรีด้วย ไอ้เราก็รีบลงมาต่อแถวรับข้าวกับเขาบ้าง ได้ข้าว 1 กล่อง น้ำ 1 ขวด ขนม 1 ชิ้น ก็คิดนะว่า เออ ดีเหมือนกันนี่หว่าประหยัดตังค์ได้ 40-50 บาท ก็กินเอาประทังชีวิตไป”
.
“ถ้าถามว่าความเป็นอยู่ยังไงบ้างตอนนั้น มาอยู่แถวราชดำเนินเนี่ยไม่ใช่ว่าอยู่ง่ายนะ อยู่ยากมากเลย มันมีนักเลงเยอะ ยิ่งช่วงแรกเราเนี่ยเป็นคนแปลกหน้าเวลาไปรับข้าวก็จะโดนพวกนักเลงไล่ให้ไปอยู่ข้างหลังตลอด บางทีก็โดนแทรกพอจะถึงคิวเราข้าวก็หมดแบบนี้ จะอาบน้ำก็ยากเพราะต้องแอบเข้าตามปั๊ม ถ้ามีคนทำความสะอาดมาเห็นก็โดนว่าเอา ส่วนเสื้อผ้าจะซักยังไงไม่มีเงินซื้อแฟ๊บ เสื้อผ้าก็ใส่หมุนเวียนไป 3 ตัว บางทีก็ซักน้ำเปล่า บางทีก็ซื้อสบู่มาซักเพราะมัน 2 in 1 ไงได้ใช้ถูตัวด้วย อีกอย่างมีคนขี้เมาอยู่ด้วย บางครั้งเมาและก็ฉี่ราดไปทั่วก็ทนนอนเหม็นฉี่กันไป ย้ายไปตรงไหนก็มีแต่ป้ายบอกว่าห้ามนอน หรือไม่ก็เจอแต่พวกขาใหญ่เจ้าของพื้นที่มาขู่ไม่ให้นอนก็มี”
.
“แว๊บแรกเลยนะที่เขาบอกว่าจะช่วยเรื่องห้องเช่าคิดเลยว่า รอดตายแล้วกู ดีใจมาก ๆ (ร้องไห้) เพราะตอนนั้นเรื่องเช่าห้องคือแทบไม่ได้คิดเลย จะเอาปัญญาที่ไหนไปเช่า ไหนจะค่าแรกเข้าค่ามัดจำอีก พอจังหวะที่เจ้าหน้าที่จ้างวานข้าบอกว่า เราจะช่วยค่ามัดจำและค่าเช่าห้อง 1 เดือนด้วย คือตกใจเลย มีแบบนี้ด้วยเหรอ เหลือเชื่อมากเพราะลุงทำงานมาทั้งชีวิตไม่มีที่ไหนช่วยเราขนาดนี้”
.
“พอถึงวันจะได้เข้าอยู่จริง ๆ เจ้าหน้าที่จ้างวานข้าขนข้าวขนของไปให้ มีพวกหม้อหุงข้าว พัดลม มีหมอน ที่นอนมาให้พร้อมอยู่ และบอกว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปให้ลุงเริ่มทำงาน 5 วัน/สัปดาห์ ได้วันละ 500 บาท จะได้มีเงินไว้จ่ายค่าเช่าห้องเดือนถัดไป คิดในใจโอ้โฮเขาให้ขนาดนี้เลยนะ หัวใจมันฟูมาก ชีวิตได้เริ่มต้นใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้วถึงแม้จะวัยนี้ คืนนั้นยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทาง และเขียนความรู้สึกบันทึกใส่ไว้ในกระดาษ เขียนขอบคุณโครงการจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา ที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้อีกครั้ง”
.
“ลุงสังเกตตัวเองตอนนี้นะ เปรียบเทียบกับตอนไร้บ้าน ขมับลุงมันโบ๋ มันเกร็ง มันตึงเครียด แต่ตอนนี้มันคลายแล้ว คล้ายว่าชีวิตเราผ่อนคลายขึ้น มีที่อยู่ หิวก็มีเงินซื้อกินได้ ได้ซื้อเสื้อผ้าจนจะไม่มีที่เก็บแล้ว (หัวเราะดังมาก)ได้ซื้อโต๊ะมาตั้งพระเป็นโต๊ะหมู่บูชาที่ห้อง ทุกวันนี้บอกตรง ๆ ได้เลยว่ามีความสุขแล้ว หนทางข้างหน้าจะเป็นยังไงก็สู้ต่อไป”
.
“การได้มาเจอจ้างวานข้า มันเหมือนเป็นของขวัญชิ้นใหญ่เลย มันเหมือนเป็นพลุ เป็นดวงประทีปส่องแสงสว่างในใจเรา ลุงยังคงคาใจที่นี่มาก คือตอนตกงานไปหางานไปที่ไหนเขาก็ไม่รับเพราะอายุเรามากแล้ว แต่เออว่ะที่นี่รับ พอรู้ว่าได้ค่าจ้างเท่านี้ก็ยิ่งแปลกใจ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในชีวิตเรานะ และยิ่งมาทำงานได้สักพักได้เห็นเพื่อนร่วมงานมีทั้งผู้สูงอายุ บางคนเดินขากะเผลกมาเลย คือมันอิ่มใจมากที่ยังมีมูลนิธิที่ทำเรื่องแบบนี้อยู่ในสังคมนี้ด้วย ลุงขอบคุณมากเลยนะ ขอบคุณที่สร้างความหวังให้กับชีวิตลุงอีกครั้ง”
————————————-
@คนไร้บ้านที่เข้าทำงานในโครงการจ้างวานข้าในเดือนกันยายน 2565
@มีห้องเช่าเป็นคนที่ 52ของโครงการจ้างวานข้าเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2565
————————————-
สนับสนุน จ้างวาน ข้าได้ที่
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-2-58289-4 SCB
Share Button