ค่าแรงที่ได้ จะเก็บไว้เป็นทุนเรียนต่อ


“หนูอยู่กับตายาย ตอนนี้ท่านก็ 60 กว่าแล้ว แต่ก่อนที่บ้านเราก็พอมีพอกิน เปิดร้านอะไหล่รถยนต์มือสองจากญี่ปุ่น แต่พอเศรษฐกิจไม่ดี หลังจากจบ ม.6 ที่บ้านก็ไม่มีเงินให้เรียนอีกแล้ว ก็พยายามดิ้นรน หาทางกู้ กยศ.บ้าง ทำงานไป เรียนไปบ้าง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ”

ถ้าเรียนตามเกณฑ์ ปีนี้จะเป็นปีที่ “เฟอรี่” สำเร็จการศึกษา แต่ถึงแม้ว่าวันนี้ จะยังไม่ถึงเป้าหมาย แต่เธอยังคงไม่ละความตั้งใจ

“หนูอยากเรียนต่อทุกวัน” เธอว่า ถ้าเธอไม่เรียน โอกาสของเธอจะน้อยกว่าคนอื่นๆ

“โอกาสมันน้อยจริงๆ นะพี่ ถ้าได้เรียนอีกครั้ง หนูจะเลือกเรียนการจัดการ เพราะกว้างดี หางานง่าย”

เฟอร์รี่เป็นเด็กเรียบร้อย ยิ้มเก่งกว่าพูด เป็นมดงานที่ทำงานอย่างไม่อิดออด ไม่ปริปากบ่นเหนื่อยให้ได้ยิน ทุกวันเธอจะมาทำงานแต่เช้า รับหน้าที่อยู่ในทีมคีย์ข้อมูลกล่องแบ่งปัน และดูแลนำส่งกล่องทั้งหมด 300 กล่องขึ้นรถไปรษณีย์ให้ทันในตอนเย็น เพื่อส่งถึงผู้เดือดร้อนให้เร็วที่สุด

“มาทำงานที่นี่ ได้เห็นว่ามีคนเดือดร้อนจากโควิดมากจริงๆ ชีวิตหนูว่าลำบากแล้ว แต่มีคนที่ลำบากกว่าหนูอีกมาก บางครอบครัวหนูรับรู้เรื่องของเขาแล้วอยากจะร้องไห้ ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ จะสู้กันยังไง”

“การมาทำงานที่มูลนิธิครั้งนี้ จึงเป็นงานที่มีคุณค่าสำหรับหนู ได้ช่วยเหลือ ได้ทำประโยชน์ให้กับคนอื่นอีกเยอะเลย ที่หนูทำไป ก็ได้หลายพันกล่องแล้วนะคะ”

เฟอรี่บอกกับเราว่าน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานในครั้งนี้ จะเป็นเงินเก็บให้เธอได้กลับไปเรียนต่ออีกครั้ง

ธีร์จุฑา หาญณรงค์ (เฟอรี่)
สมาชิกทีมคีย์ข้อมูลนำส่งกล่องแบ่งปัน

Share Button