พี่เอก เอกชัย พรพรรณประภา อายุ 58 ปี อาสาสมัครดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

“ผมตัดสินใจลาออกจากชีวิตราชการ มาเป็นข้าราชการบำนาญ ด้วยความที่เราเป็นเด็กทำกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอรับราชการก็ทำงานภาคสนามมาตลอด แต่ชีวิตมันต้องการทั้งความสนุกและความสุข เลยตัดสินใจลาออกมา หาความสนุก ความสุข และหาคุณค่าในชีวิตไปพร้อมกัน

“สามปีที่ลาออกจากราชการมา ผมเริ่มไปเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิแห่งหนึ่ง มีหน้าที่รับให้คำปรึกษาผู้ป่วย HIV และการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทางโทรศัพท์ จากนั้นได้มาเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิกระจกเงา ในโครงการอาสาสร้างบ้าน ไปช่วยซ่อมบ้านอยู่ 2 หลัง ให้กับผู้ป่วยติดเตียง และครอบครัวที่จนยาก คือสภาพบ้านที่เป็นเห็นตอนนั้นมันไม่เหมาะที่มุนษย์จะไปอยู่ได้ ก็ไปช่วยซ่อมสร้าง ตอกตะปู แบกหินปูนทราย ทำจนเขาเข้าไปอยู่ในบ้านได้อย่างปลอดภัย ได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าของบ้านที่เราไปซ่อมบ้านให้ มันมีความสุข ผมยังจำรอยยิ้มทั้งน้ำตาบนใบหน้าเจ้าของบ้านได้จนถึงทุกวันนี้

“จากนั้นเห็นประกาศรับสมัครอาสาดับไฟป่า ที่เชียงราย ก็เลยตัดสินใจมาร่วมด้วย พอมาถึงวันแรกเห็นคนกุลีกุจอ เตรียมลงพื้นที่ออกไปดับไฟป่า ด้วยความที่เราอาวุโสกว่าเขาเพื่อน น้องๆก็เรียกเราว่าลุงเอก ที่นี่ผมทำหน้าที่อาสาสมัครหลายหน้างาน ทั้งขี้นไปทำแนวกันไฟก่อนไฟจะมา ถ้าตรงไหนมีไฟก็ขึ้นไปช่วยดับไฟเพื่อไม่ให้เกิดควัน และได้รับมอบหมายจากทีมไปให้ร่วมประชุมวางแผนดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานอื่นๆด้วย

“งานดับไฟป่า เป็นงานที่เหนื่อยและหนักมากนะ แถมเสี่ยงอันตรายด้วย กดดันจากไฟและควันที่อยู่ตรงหน้าเรา ยิ่งได้ข่าวว่ามีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดับไฟป่า ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร โดยเฉพาะทีมพวกเรา ที่ได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายวัน ต้องช่วยดูแลกัน ผมเป็นคนแก่เนอะ ก็จะเคร่งครัดกับน้องๆที่เป็นวัยรุ่น เป็นห่วงเขา การไปดับไฟป่า ต้องระมัดระวังตัวเองสูง ผมเคยพลาดสะดุดตอไม้ตอนไต่ลงเขา ซึ่งข้างๆเป็นกลุ่มไฟและเหว จนได้รับบาดเจ็บ โชคดีน้องๆที่ไปด้วยกันคว้าแขนช่วยไว้ได้ทัน

“ผมมาเป็นอาสาสมัครดับไฟป่าตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 ทำงานกันหนัก เกือบทุกวันแทบไม่ได้หยุดพักเลย ลุยกันทุกวัน แต่ได้เห็นความสำเร็จ เราทำแนวกันไฟจนหยุดไฟไม่ให้ข้ามมาไหม้ป่าที่เหลือได้ ในขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ เราเรียนรู้มัน เรารู้จักมัน จนคุมมันไว้ได้ ซึ่งไฟป่านี่แหละคือต้นกำเนิดของควัน ของมลพิษที่เราหายใจกันเข้าไปแล้วเราหยุดไฟได้มันคือความภูมิใจ

“ผมอยากจะบอกในฐานะความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เราอยู่ร่วมกันในสังคม ถ้าเราลองได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น มองเห็นคนอื่น มองไกลๆไปจากตัวของเราเอง เราจะเริ่มนับถือตัวเองได้ สิ่งเหล่านี้จะหล่อเลี้ยงชีวิตจิตใจ เชื่อว่าทุกคนอยากทำสิ่งที่ดี และถ้าเราได้ทำสิ่งที่ดีนั้นเพื่อคนอื่นด้วย นั่นแหละคือความสุข”

พี่เอก เอกชัย พรพรรณประภา อายุ 58 ปี
อาสาสมัครดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

#อาสาดับไฟป่า #มูลนิธิกระจกเงาเชียงราย

Share Button