ให้ชีวิตที่เหลืออยู่เป็นพยาน..

เป็นคุณยายที่นั่งเฝ้ามองคุณตานอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เมื่อเราถามไถ่ว่ากินข้าวหรือยัง คุณยายไม่ตอบ แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นถามว่าคุณตากินข้าวหรือยัง

คุณยายได้แต่พยักหน้า..

 

ว่ากันว่าเมื่อสมัยคุณยายยังสาวๆ คุณยายดุมาก แต่ถึงดุแค่ไหนก็ไม่เคยตีลูก ลูกสาวคนกลาง ยืนยัน เธอได้รับมอบหมายให้ดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่า โดยมีพี่ๆน้องๆคอยส่งเสียเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

 

คุณตาเป็นคนดื่มเหล้าหนัก วันไหนเมากลับบ้านมามักจะถูกคุณยายดุเป็นประจำ

“พ่อคือแบบฉบับของลูกผู้ชายที่รักลูกรักเมีย” ลูกสาวกล่าวทั้งน้ำตารื้อ

คุณตาทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูทั้งครอบครัว ส่วนคุณยายเปิดร้านขายขนมไทยเพื่อเป็นรายได้เสริม

 

เมื่อลูกๆเติบโตทำงาน ทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัวของตนเองได้ คุณตาแยกตัวออกไปอยู่เพียงลำพังในบ้านซึ่งไม่ได้อยู่ห่างไกลจากบ้านลูกและเมียเท่าไหร่

 

ในวันที่แดดร้อนจัดวันหนึ่ง อยู่ๆคุณตาก็ล้มหมดสติ และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่วันนั้น

ลูกๆย้ายพ่อกลับมาอยู่ที่บ้าน กางเตียงเหล็กให้นอนเคียงข้างเตียงไม้ของคุณยายภรรยารัก

มีลูกสาวคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ และเปลี่ยนแพมเพิส

 

คุณตาป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกแบบเฉียบพลัน อาจจะด้วยการดื่มเหล้าอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่งผลให้กลายเป็นอัมพาตเคลื่อนไหวร่างกายและพูดไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่นั้นมา
ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ในบ้านเล็กๆ ซึ่งคาดคะเนด้วยสายตาคงไม่ขนาดไม่เกิน 4×3 เมตร
ภายในบ้านบรรจุเตียงนอนสามเตียง เป็นเตียงของลูกสาวหนึ่งเตียงตั้งอยู่ปลายเท้าเตียงของคุณตา
อีกสองเตียงเป็นเตียงเหล็กของคุณตาและเตียงไม้ของคุณยายที่วางห่างกันเพียงประตูบ้านกั้น

 

บ้านหลังน้อยชั้นเดียว ปลูกติดริมถนนสายหลักสองเลนใหญ่กว้างขวาง รถเล็กใหญ่วิ่งกันขวักไขว้

 

ในบ่ายของวันหนึ่งตามคำสัญญา ทีมอาสามาเยี่ยมนำนม แพมเพิสและสิ่งของจำเป็นไปเยี่ยมคุณตาถึงเตียง

 

ทันทีที่รถจอดหน้าบ้าน .. อาสาสมัคร ทีมงาน ลงจากรถพร้อมข้าวของเครื่องใช้

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ.. ตอนนี้ตัวของเราสูงกว่าหลังคาบ้านของคุณตาเสียแล้ว

 

การจะเข้าไปพบเจอสมาชิกในครอบครัวทั้งสาม ทุกคนต้องก้มตัวลงต่ำในระดับคลานเข่าเสียก่อนจึงจะสามารถเข้าประตูที่ถูกถนนถมทับจนเหลือเพียงครึ่งบาน…ต่ำจากพื้นถนนลงประมาณหนึ่งเมตร เราถึงจะเหยียบพื้นกระเบื้องมันเงาสะอาด บ้านที่มีพื้นที่สำหรับบรรจุคนได้ไม่เกินห้าคน

 

เราผลักเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไป เพราะยิ่งคนเยอะอากาศจะยิ่งร้อนและทำให้อึดอัดหายใจไม่สะดวก

 

“เราไม่มีเงินยกบ้านให้เท่ากับถนน ก็ทนอยู่ไปอย่างนี้ก่อน”

 

สังเกตได้ว่าบ้านหลังอื่นๆถูกยกพื้นและทำหลังคาให้ให้เสมอเท่ากับถนน เหลือเพียงบ้านหลังนี้เพียงหลังเดียวที่ยังอยู่ต่ำเช่นนี้ คุณตาคุณยายไม่ได้ออกจากบ้านมานานแล้ว เพราะไม่สามารถมุดออกจากหลังคาอันต่ำเตี้ยเรี่ยดินนี่ได้ด้วยสภาพร่างกายที่แก่มากแล้ว

 

ทุกวันคุณยายทำได้เพียงนั่งๆนอนๆ กินข้าว ฟังวิทยุ โดยทำทุกอย่างอยู่บนเตียงไม้เก่าๆ ส่วนคุณตาไม่สามารถตอบสนองใดๆได้ จึงมีเพียงลมหายใจเข้าออกที่ทำให้รู้ว่าคุณตายังมีชีวิตอยู่ อยู่เพื่อลูกสาวและอยู่เพื่อเป็นเพื่อนคุณยาย  รถราสัญจรไปมาตลอดทั้งวันทั้งคืน ฝุ่น ควัน ลอยฟุ้งเหนือพื้นถนน ผู้คนเดินไปมาอยู่สูงกว่าเตียงนอนของทุกคนในบ้าน บ้านที่เป็นเพียงเกราะคุ้มกันร้อน ฝน หนาว มันไม่เคยทำหน้าที่อื่นๆได้อีกหลังจากถนนเส้นใหญ่ตัดผ่านและทับถม เหมือนกับผู้คนที่อาศัยอยู่ตรงนั้นไม่มีความหมายและตัวตน

 

โรคเส้นเลือดในสมองแตกพรากชีวิตชีวาของคุณตาไปอย่างไม่มีวันคืน เช่นกันการเติบโตทางตัวเลขเศรษฐกิจของชาติพรากความเป็นมนุษย์เสียสิ้นซาก มองเห็นเพียงความเจริญรุ่งเรือง แต่กลับปิดหูปิดตาทำเป็นมองไม่เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์..ที่เคยเป็นฟันเฟือนและกำลังสำคัญของชาติมาก่อน.. ชีวิตที่ผ่านเลยมากกว่า 80 ปีของคุณตาคุณยายยังมีความหมายสำหรับลูกหลาน ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับประเทศนี้ คุณตาคุณยายได้ทดแทนแผ่นดินเกิดผืนนี้แล้ว มากมายเกินกว่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้ ดีที่สุดแล้ว ..พวกเราทุกคนในทีนี้เป็นพยาน

Share Button