หนังสือในดวงใจ รถไม้..ของขวัญ ในวัยวันฉัน 8 ขวบ

หนังสือในดวงใจ รถไม้..ของขวัญ ในวัยวันฉัน 8 ขวบ

ย้อนกลับไปเมื่อตอนฉันอายุได้ 8 ขวบ และกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ณ โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาพักเที่ยงหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ ฉันจะชวนเพื่อนไปห้องสมุดด้วยกัน หรือถ้าเพื่อนไม่อยากไป ฉันจะไปคนเดียว และทันทีที่ถอดรองเท้าหน้าห้องสมุด ฉันจะรีบวิ่งจี๋ไปที่ชั้นวางหนังสือนิทานแล้วหยิบ เรื่อง รถไม้..ของขวัญ มาเปิดอ่านในทันที ฉันอ่านมันซ้ำๆในทุกวันอย่างโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย และที่สำคัญฉันจะจับจองนิทานเล่มนี้ไว้ในอ้อมอกหรือเก็บไว้ใกล้ตัว แม้ว่าจะกำลังอ่านนิทานเล่มอื่นๆอยู่ ฉันไม่อยากให้ใครเอานิทานเล่มนี้ไปครอบครอง..

และฉันก็ทำเช่นนั้นทุกครั้งที่มีโอกาสไปที่ห้องสมุด ฉันชอบขวัญ เด็กชายที่มีความมุ่งมั่น สามารถประดิษฐ์ของเล่นจากเศษไม้จนเป็นรถไม้ที่ถีบได้จริง ตอนนั้นฉันอยากทำได้อย่างขวัญมากๆ อยากมีรถไม้เป็นของตัวเอง

เนื้อหาของนิทานเล่มนี้เล่าถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อขวัญ ขวัญเป็นเด็กวัด ฐานะทางบ้านยากจน ในทุกเช้าขวัญจะเดินตามหลวงพ่อออกบิณฑบาตร มีอยู่วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนขวัญเดินผ่านบ้านเด็กคนหนึ่งชื่อแก้ว ครอบครัวของแก้วมีฐานะร่ำรวย และขวัญเห็นแก้วกำลังขี่รถจักรยานยนตร์ไฟฟ้า ขวัญได้แต่เกาะรั้วเฝ้ามองแก้วและเพื่อนๆกำลังเล่นของเล่นที่มีทั้งรถจักรยานยนตร์ไฟฟ้า หุ่นยนตร์ รถบังคับวิทยุ แก้วกับเพื่อนๆเห็นขวัญเข้าก็เลยโวยวายต่อว่าและทำท่าทีรังเกียจและพากันดูถูกขวัญถึงขั้นบอกให้ไปกินดิน ขวัญได้ยินเช่นนั้นก็เดินร้องไห้เสียใจออกมาจากบ้านของแก้ว

ในคืนนั้นเองขวัญได้ฝันเห็นรถไม้ แม้ว่าความฝันนั้นจะไม่ชัดเจนนักแต่ขวัญก็จำภาพรถไม้ได้ดี จนตอนเช้าขวัญรีบเร่งจัดการร่างภาพรถไม้ในความฝันนั้น และมองหาเศษวัสดุเพื่อมาประกอบเป็นรถ ไม้ที่พอหาได้เป็นแผ่นไม้ที่ลอยมาตามน้ำเน่าที่สกปรก มีผู้ใหญ่บางคนเห็นความตั้งใจของขวัญ จึงเอาล้อหน้าของรถสามล้อเก่าๆของเด็กมาให้ ขวัญประกอบรถไม้เป็นรถสามล้อที่สามารถถีบได้จริง เขาตั้งใจทำจนสำเร็จ ผู้ใหญ่ต่างให้การยกย่องในความตั้งใจ เด็กคนอื่นๆที่ได้เห็นรถของขวัญต่างพากันชมว่าสวยงาม ถามไถ่ว่าไปเอามาจากไหน

ขวัญยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ ขวัญถีบรถไม้ของตัวเองไปหาแก้วที่หน้าบ้าน แต่ครั้งนี้ขวัญไม่รู้สึกอิจฉาหรือน้อยใจแก้วอีก แก้วและเพื่อนๆเห็นขวัญกับรถไม้ก็อยากนั่งรถของขวัญทุกคน ขวัญให้ทุกคนลองนั่งตามสบายสุดท้ายแก้วคิดได้จึงเอารถมาแบ่งให้ขวัญได้เล่นบ้าง เด็กๆต่างแบ่งปันรถของตนเองให้แก่เพื่อน

นิทานเรื่องนี้สอนให้เรามองความศักดิ์ศรีความมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน ปลูกฝังลักษณะนิสัยการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น นี่ฉันมาคิดได้ตอนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ถ้าตอนนั้นถามว่าทำไมถึงชอบนักชอบหนากับนิทานเล่มนี้ อาจจะเป็นเพราะฉันเป็นเด็กช่างจินตนาการ ชอบประดิษฐ์ และขี้สงสาร จึงเอาใจช่วยและเชียร์ขวัญแบบออกหน้าออกตา ด้วยการหยิบนิทานของขวัญมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนอนสตอป

วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ฉันเดินเข้าไปในห้องสมุดแล้วพบหนังสือนิทานในดวงใจเล่มนี้ หัวใจฉันเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น ฉันบรรจงเปิดอ่านทีละหน้า ตามท่วงทำนองกลอนแปด ตั้งแต่หน้าแรกจนจบ คิดถึงตัวเองตอนป.2 ที่ยังไร้เดียงสา ภูมิใจในตัวเองเล็กๆว่านิทานเล่มเล็กๆนี้เป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่หว่านทิ้งไว้แล้วมันงอกงามแตกราก เติบโต เป็นต้นกล้า แตกกิ่งก้านสาขาจนเป็นต้นไม้ใหญ่ จนฉันเป็นอ่านจนและอาศัยร่มเงาดอกผลของการอ่านกระทั่งเป็นนักเขียนกับเขาได้ในวันนี้.. เพราะว่าการอ่านเปรียบเสมือนต้นทุนวัตถุดิบชั้นดีของการเขียน ฉันเขียนได้เพราะฉันอ่าน และเพราะฉันอ่านหนังสือดีๆฉันจึงเขียนงานดีๆได้ ขอบคุณเพื่อนในวัยเยาว์ ผู้ปลุกปั้นความฝันและแรงบันดาลใจให้ฉัน มีนิสัยเช่นเด็กชายขวัญในนิทาน จนถึงวันนี้

ปล. เรื่องรถไม้ของขวัญ ผู้แต่ง อิทธิพล วาทะวัฒนะ เป็นหนังสือที่ชนะการประกวด 2 รางวัล ในประเภทบันเทิงคดีและสวยงาม จัดอยู่ในหมวดหมู่หนังสืออ่านเพิ่มเติมสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต

Share Button