มือของผู้รับ..ไม่ได้อยู่ต่ำสุด..เสมอไป

มือของผู้รับ..ไม่ได้อยู่ต่ำสุด..เสมอไป

ก่อนฤดูฝนจะลาขาด พายุกรรโชกไม่รู้ที่มาที่ไป โหมลมจนปลายยอดต้นมะพร้าวไหว
แรงลมหอบหลังคาสังกะสีของบ้านให้ปลิดปลิวลอยไปตามลม ..
หนำซ้ำมันยังพัดพาตับหญ้าคานับสิบ ลอยหายไปต่อหน้าต่อตา
ชีวิตเมื่อยามปลายฝนต้นหนาว..ใครบางคนปรามาส
“ยังไม่ทันเอาชีวิตรอด ก็คิดช่วยเหลือคนอื่น มึงมันเตี้ยอุ้มค่อม”

เขารู้ดี..ยิ่งกว่าใครๆ..ชีวิตต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นนี้ จะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยใครได้
เขาว่า..หากชีวิตค่อมๆที่รอการช่วยเหลือ ยื่นมือมา ไยมนุษย์ทุกข์ยากด้วยกันจะไม่เหลียวแล
แค่ค่อมหากยังพอยืนได้.. “ผมจะอุ้ม” เขาพูดแน่นหนัก

สำหรับตัวเขาเอง หลังได้รับการช่วยเหลือจากโครงการอาสามาเยี่ยม บ้านที่เคยว่างเปล่า
เริ่มมีข้าวของเครื่องใช้ ตู้เย็น ที่นอนหมอนมุ้ง ข้าวสาร และนมสำหรับเด็กๆ
และที่สุดของความปรารถนา “เห็ดนางฟ้าภูฎาน” คือคำตอบสุดท้ายของโจทย์ที่มีชื่อว่าความยากจน

ชีวิตก็เหมือนฤดูกาล ยังไม่ทันได้ดื่มด่ำความฉุ่มชื่นของสายฝน ลมแล้งในฤดูหนาวก็ก้าวเข้ามาเตือนสติ
เขาตั้งใจถักหญ้าคาทีละเส้น หวังจะส่งต่อให้เพื่อนผู้ห่างไกลได้ใช้มันมุงเป็นหลังคาคุ้มแดดฝน
เขาอาจจะต้องเริ่มใหม่ เกี่ยวหญ้า นำมาตากแดด แล้วร้อยมันเข้ากับไม้ทีละเส้น จนกว่าจะเสร็จ

เพื่อนในยามทุกข์ยากคือยาอันวิเศษสุด..มันแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้ง..
เหมือนใครคนหนึ่งอาสามาปลดแอกบนหลังที่กำลังเมื่อยล้า
เสร็จเมื่อไหร่ไม่สำคัญ ..ความหมายของการได้รู้สึกเป็นผู้ให้..มันยิ่งใหญ่แต่เจียมเนื้อเจียมตัวนัก
คนพิการอย่างเขา เดินยังลำบาก ปากท้องยังอิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง ลูกเมียยังมอมแมมยากเข็ญ
มีเพียงสองมือและหนึ่งสมอง.. ทันทีที่พอเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์
เขารีบหยิบยื่นให้ผู้อื่นในทันที

“ขอให้เห็นว่าพรุ่งนี้ยังพอมีกินมีใช้” ไม่ต้องรอให้ร่ำรวยอะไร
เพราะความจนมันเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ไปตลอดชีวิต
ช่วยทั้งที่ยังจน..ทำอะไรได้ก็ทำ..ใช้แรงงานหยิบยื่นแบ่งปันกัน
พรุ่งนี้..หากบ้านอีกหลังมีหลังคาครบครัน บ้านเราค่อยถึงเวลาซ่อมแซม..

Share Button