สิทธิในการเสพสุนทรียะและกลิ่นอันหอมหวนของบ้านในความทรงจำ

สิทธิในการเสพสุนทรียะและกลิ่นอันหอมหวนของบ้านในความทรงจำ

ที่นี่เราสามารถมองเห็นฟ้าได้ทุกสี เทียบเท่ากับทุกคน เพียงแต่ไม่อาจเห็นเส้นขอบฟ้า..
ฉันใด “การมองไม่เห็นเส้นขอบฟ้า ก็เหมือนกับการมีชีวิตแต่เข้าไม่ถึงจังหวะเต้นของหัวใจ” ฉันนั้น

“เรือนจำ” ในที่นี้หมายถึง “เรือน” ที่ประทับตราตรึงไม่มีวันลืมเลือนอยู่ใน “ความทรงจำ”
เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ “ลืม” เราก็อาจต้องกลับมาที่นี่อีก จนกว่าจะ “จดจำ” เรือนแห่งนี้ได้ขึ้นใจ
สำหรับทุกคนที่ถูกเรือนแห่งนี้..จองพื้นที่ในความทรงจำ แค่มองเข้าไปในดวงตาอันแห้งแล้ง
เราสัมผัสถึงลมหายใจแห่งความ “คิดถึงบ้าน” สุดพรรณา

ภายใต้กำแพงซ้อนกำแพง สามสี่ห้าชั้น ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
กว่าเราจะเข้าถึงนักโทษชายที่มีตั้งแต่วัยฉกรรจ์ จนถึงเฒ่าชรา
หลังกำแพงสูงเสียดฟ้า ความรู้สึกของเราถูกกลั่นกรองทีละน้อย
ในแวบแรกของความคิด เรานึกถึงเส้นทางหลบหนี..

แปลกแต่จริง…

เมื่อร่างกายกำลังถูกกักขัง เพียงแค่เชิงกายภาพด้วยสิ่งก่อสร้างแน่นหนา
ความรู้สึกของเรากลับดิ้นรนหาอิสรภาพ นี่คงเป็นสัญชาติญาณสามัญธรรมดาของมนุษย์
ทั้งนี้..มันไม่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงใดๆ กับการเป็นคนดี คนเลว!!

“บทเพลง กาแฟ หญิงสาว น้ำแข็งใส และหนังสือ” สิ่งของธรรมดาแต่ไม่สามัญสำหรับที่นี่

“จริงใจแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง ผิดเพียงหนึ่งครั้ง ถึงเก้าซะที่ไหน” ยังไม่ทันสิ้นเสียงร้องนำ บรรดาชายหนุ่มรุ่นกระทงพากันเปล่งเสียงประสาน พร้อมแววตาแจ่มใส ท่วงทำนองดนตรีช่วยพาเขากลับสู่ร่องรอยแห่งความรื่นรมย์ของชีวิตเก่าๆอีกครั้ง อาจจะเนิ่นนานสำหรับนักโทษบางคนที่ไม่ได้เปล่งเสียงร้องเพลงดังๆอย่างนี้ แม้กระทั่งในความทรงจำ

“กาแฟเย็น” ชื่นใจถูกเสริฟให้ทุกคน แบบไม่อั้น อาจจะไม่ใช่กาแฟที่อร่อยที่สุด แต่มันก็ทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่ม ฉำ่เย็นขึ้นมาบ้าง คาเฟอีนสูบฉีดหัวใจให้คึกคักและทำให้บางคนคิดถึงเพื่อนที่ไม่ได้เจอมานาน คนที่เคยดื่มกาแฟร่วมกันในยามเช้าบ่าย

“หญิงสาวแปลกหน้า” อาสาสมัครหน้าตาจิ้มลิ้ม พวกเธอคิดอะไรอยู่ ถึงได้พาตัวเองมาถึงที่นี่ เพราะสำหรับที่นี่หญิงสาวคือ “สิ่งต้องห้าม” การเคลื่อนย้ายร่างกายไปมา หยิบจับข้าวของ จัดเรียงแก้วน้ำของพวกเธอ สายตาประหม่า แต่ไม่เหยียดหยัน ดูแคลน คงทำให้บางคนรู้สึกเหมือนกำลังนั่งดูแม่ ภรรยา หรือลูกสาว จัดเตรียมข้าวปลาอาหารอยู่ในห้องครัว เชื่อว่า ..จังหวะเต้นของหัวใจใครบางคนคงเต้นดังโครมครามเหมือนชีวิตกลับมาธรรมดาสามัญอีกครั้ง บ้านที่มีผู้หญิง คือเรือนนอนที่อบอุ่น ปลอดภัยทั้งกายและใจสำหรับผู้ชายทุกคน

“น้ำแข็งใส” ขนมหวานๆเย็นๆ ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ยิ่งได้เคี้ยวน้ำแข็งพร้อมกับผลไม้เชื่อมนานาชนิด ยิ่งทำให้รู้สึกมีชีวิตมีรสชาติ มีชีวิตชีวา และกระชุ่มกระชวย ชีวิตของคนเราควรได้มีโอกาสลิ้มรสความหอมหวานแบบนี้ เพราะความสุนทรีย์ทางอารมณ์ต้องครบทั้งรูปรสกลิ่นและเสียง

“หนังสือ” ทุกคนสามารถเลือกหนังสือที่ตัวเองชอบได้คนละหนึ่งเล่ม ด้วยโครงการอาสามาเยี่ยมเชื่อว่า การอ่านคือการเปิดจินตนาการสู่โลกใบใหม่ ถึงแม้ว่าจะเป็นโลกใบใหม่ที่ห่างไกลความจริงสำหรับนักโทษที่นี่ แต่การได้รู้ได้เห็นความเป็นไปของโลกภายนอกผ่านตัวหนังสือ และภาพประกอบมันก็ทำให้เขารู้สึกเป็นอิสระเหมือนนักเดินทางแม้ในความฝันก็ยังดี

เพราะที่นี่คือที่ที่ทำให้คน “คิดถึงบ้าน” มากที่สุดในโลก

การมาของโครงการอาสามาเยี่ยม “เพื่อนนักโทษชายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร” เพียงสองชั่วโมงครึ่งของการพบเจอกันมันช่วยลดโมงยามแห่งความโหยหาและคิดถึงบ้าน ช่างสั้นนักในห้วงสุนทรียะ แต่กลับสร้างความหมายใหม่ของการมีชีวิตต่อไปในเรือนจำที่เย็นชา ผ่าน“บทเพลง กาแฟ หญิงสาว น้ำแข็งใสและหนังสือ” เป็นการรวมตัวกันของสิ่งธรรมดาแต่ไม่สามัญที่นำพากลิ่นของบ้านให้ลอยฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วพื้นที่แห่งความทรงจำ

Share Button